บุรีรัมย์ - จังหวัดบุรีรัมย์จัดตั้งกองทุนพึ่งพาตนเองรับซื้อข้าวเปลือกคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์และเข้าโครงการชะลอการขายข้าวโดยการฝากข้าวในยุ้งฉางกับ ธ.ก.ส. ไม่ได้โดยรับซื้อในราคาสูงกว่าท้องตลาดตันละ 200 บาท เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ พร้อมสีแปรสภาพเป็นข้าวสาร แพกถุงละ 5 กิโลกรัม ขายในราคาถุงละ 120 บาท
วันนี้ (5 ก.พ.) จากสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำ และปัญหาคุณภาพข้าวของเกษตรกร โดยที่ จ.บุรีรัมย์คาดว่ายังคงมีผลผลิตข้าวอยู่ที่ประมาณ 200,000 ตัน นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้มีนโยบายในการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่คุณภาพข้าวอยู่ในเกณฑ์ต่ำ (กรัมข้าวไม่ถึง 20 กรัม) และไม่สามารถเข้าโครงการชะลอการขายข้าวโดยการฝากข้าวในยุ้งฉางกับ ธ.ก.ส.ได้โดยการจัดตั้งกองทุนครอบครัวเดียวกันตามธรรมนูญหมู่บ้านสันติสุข 9 ดี คัมภีร์สร้างอนาคตให้ลูกหลาน คือ “กองทุนพึ่งพาตนเอง” เพื่อรับซื้อข้าวของเกษตรกรในราคาสูงกว่าท้องตลาดตันละ 200 บาท
โดยให้สหกรณ์จังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์ เกษตรกรที่สมควรจะได้รับการช่วยเหลือ จากนั้นให้ สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวบรวมข้อมูลเกษตรกรที่มีข้าวคุณภาพ ข้าวต่ำกว่า 20 กรัม ส่งให้เกษตรอำเภอ เกษตรตำบลในพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) รับรอง และให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประสานส่วนราชการ สถานศึกษาและภาคเอกชนที่มีความต้องการข้าวสาร และประสานจุดจำหน่าย โดยเชื่อมโยงกับโรงสีชุมชน สหกรณ์บุรีรัมย์ จำกัด
ขณะนี้มีเกษตรกรรายย่อยนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายที่โรงสีชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด จำนวน 25 ราย ปริมาณข้าว 53 ตัน เมื่อสีแปรสภาพเป็นข้าวสารแล้วจะได้ข้าวคุณภาพหอมมะลิคละ 5,140 ถุง แพ็กเป็นถุงละ 5 กิโลกรัม จำหน่ายในราคาถุงละ 120 บาท ขณะนี้ได้วางจำหน่ายที่หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัด
นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัด บุรีรัมย์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำและคุณภาพไม่ได้ตามเกณฑ์ ทั้งนี้ยังได้ขอความร่วมมือส่วนราชการองค์กรภาคเอกชน และสถานศึกษาที่มีโครงการอาหารกลางวันเลี้ยงเด็ก รับซื้อข้าวสารหอมมะลิบรรจุถุงสำเร็จ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย กองทุนพึ่งพาตนเอง ราคาถุงละ 120 บาท ได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4461-1016 หรือที่โรงสีชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด ได้ทุกวันทำการ
