ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดตัวลูกยีราฟเกิดใหม่ฉลองเทศกาลตรุษจีน ระบุเป็นสายพันธุ์หายากใกล้สูญพันธุ์ ทั้งโลกเหลือเพียงประมาณ 500 ตัว มีจุดเด่นตรงลวดลาย และสีสันที่ชัดเจนกว่าสายพันธุ์ทั่วไป เตรียมพร้อมให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และประกวดตั้งชื่อ
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดตัวสมาชิกใหม่เป็นลูกยีราฟเกิดใหม่ จำนวน 1 ตัว ที่เกิดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.59 ที่ผ่านมา พร้อมเปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวชม โดยลูกยีราฟตัวนี้เป็นตัวผู้ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีอยู่ในส่วนจัดแสดง เกิดจาก “พ่อมอส” วัย 10 ปี และ “แม่จอย” วัย 12 ปี ซึ่งลูกยีราฟตัวนี้นับว่าเป็นตัวที่ 3 แล้ว ที่เกิดในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และทำให้ปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีสมาชิกยีราฟทั้งหมด จำนวน 8 ตัว
นายศราวุฒิ ศรีศกุน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ลูกยีราฟสมาชิกใหม่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่เพิ่งเกิดตัวนี้เป็นสายพันธุ์โซมาลี ซึ่งหายาก และปัจจุบันในโลกนี้เหลือจำนวนน้อยมากเพียงประมาณ 500 ตัวเท่านั้น มีลักษณะเด่นอยู่ตรงลวดลายที่มีขนาดใหญ่ และมีเส้นสีขาวตัดเส้นอยู่รอบๆ เห็นชัดเจน บางลายจะปรากฏเป็นสีแดงเข้ม และลวดลายนี้พบได้จนถึงช่วงขา
สำหรับที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มียีราฟสายพันธุ์นี้อยู่จำนวนทั้งสิ้น 3 ตัว โดยเปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด และให้อาหารได้ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ ขณะเดียวกัน เตรียมเปิดประกวดตั้งชื่อลูกยีราฟตัวนี้ด้วย
สำหรับยีราฟ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Giraffidae เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง มีลักษณะเด่นคือ เป็นสัตว์ที่ตัวสูง ขายาว ลำคอยาว มีเขา 1 คู่ มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ตัวผู้มีความสูง 4.8 ถึง 5.5 เมตร และมีน้ำหนักถึง 900 กิโลกรัม ตัวเมียมีขนาด และความสูงน้อยกว่าเล็กน้อย จัดได้ว่าเป็นสัตว์บกที่มีความสูงที่สุดในโลก มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมเป็นฝูงราว 15-20 ตัว หรือมากกว่านั้น ลูกยีราฟเมื่อคลอดออกมาแล้วจะสามารถยืน และเดินได้ภายในเวลาไม่นานเหมือนสัตว์กีบคู่ทั่วไป และวิ่งได้ภายในเวลา 2-3 วัน
ทั้งนี้ ยีราฟเป็นสัตว์กินพืช กินได้ทั้งหญ้าที่ขึ้นอยู่กับพื้น และพุ่มไม้สูงๆ โดยเฉพาะพุ่มไม้ประเภทอาเคเชีย หรือกระถินณรงค์ ที่มีหนามแหลม มีรสฝาด และมีพิษ แต่ยีราฟก็สามารถกินได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะมีลิ้นที่ยาวถึง 45-47 เซนติเมตร และมีความหนาสาก ใช้ตวัดกินได้โดยไม่ได้รับอันตราย และทนทานต่อสารพิษได้ในระดับหนึ่ง
แต่เมื่อยีราฟจะดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่อยู่พื้นล่างต้องถ่างขาทั้งคู่หน้าออก และก้มคอลง เพราะมีกระดูกที่ข้อต่อต้นคอเพียง 7 ข้อเท่านั้น นับเป็นช่วงที่ยีราฟจะได้รับอันตรายจากสัตว์กินเนื้อที่บุกจู่โจมได้ เพราะเป็นช่วงที่อยู่ในท่าที่ไม่คล่องตัว ยีราฟนอนหลับในท่ายืน เพียงวันละ 2 นาที-2 ชั่วโมงเท่านั้น