ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 หรือบีโอไอแหลมฉบัง สรุปภาวะการลงทุนในภาคตะวันออก ปี 2558 พบมีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 37.54 แต่มูลค่าเงินลงทุนกลับลดลง คิดเป็นร้อยละ 5.04
วันนี้ ( 29 ม.ค.) ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 หรือบีโอไอแหลมฉบัง ได้สรุปภาวะการลงทุนในภาคตะวันออก ประจำปี 2558 ว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 828 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 602 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 37.54 มูลค่าเงินลงทุนในปี 2558 จำนวน 365,334 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีจำนวน 384,760 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.04 มีการจ้างงานจำนวน 65,125 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.46
จังหวัดระยอง มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในภาคตะวันออก คือ มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 294 โครงการ จำนวนเงินลงทุน 189,816 ล้านบาท
อันดับ 2 คือ จังหวัดชลบุรี มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 269 โครงการ มีจำนวนเงินลงทุน 70,447 ล้านบาท
อันดับ 3 จังหวัดปราจีนบุรี มีจำนวนโครงการ 121 โครงการ จำนวนเงินลงทุน 50,888 ล้านบาท
อันดับ 4 คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวนโครงการ 76 โครงการ จำนวนเงินลงทุน 35,462 ล้านบาท
สำหรับประเภทกิจการ และจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในภาคตะวันออก ยังคงเป็นอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง
จากสถิติประเภทกิจการที่อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในปี 2558 พบว่า โครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมมากที่สุดในภาคตะวันออก ได้แก่ โครงการผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง คือ มีจำนวนโครงการ 282 โครงการ จากโครงการทั้งสิ้น 828 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 34.05 และเมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อนหน้าพบว่า มีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.46
รองลงมาเป็นกิจการและสาธารณูปโภค มีจำนวน 166 โครงการ คิดเป็นร้อนละ 20.04 ของโครงการทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้ามีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.61