ชลบุรี - ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 (บีโอไอแหลมฉบัง) สรุปตัวเลขการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่าการลงทุนแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท โดย จ.ปราจีนบุรี มีเม็ดเงินลงทุนมากที่สุด แม้จะมีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพียง 6 โครงการก็ตาม
ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 (บีโอไอแหลมฉบัง) สรุปภาวะการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ 8 จังหวัด ภาคตะวันออก ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559 (1 มกราคม-29 กุมภาพันธ์) ว่า มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 62 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 26,305 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน จำนวน 5,605 ตำแหน่ง โดยจังหวัดที่มีโครงการได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี มีจำนวน 28 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 45.16 ของจำนวนโครงการทั้งสิ้น
รองลงมา คือ จังหวัดระยอง มีจำนวน 22 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 35.48 ของจำนวนโครงการทั้งสิ้น จังหวัดปราจีนบุรีมี 6 โครงการ ฉะเชิงเทรา 1 โครงการ สระแก้ว 2 โครงการ และนครนายก 1 โครงการ
ทั้งนี้ จังหวัดที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด คือ จังหวัดปราจีนบุรี ที่แม้จะมีเพียง 6 โครงการ แต่กลับมีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 9,830 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.36 ของมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น รองลงมา คือ จังหวัดชลบุรี มีการลงทุนรวม 7,986 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30.35 ของมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น
และเมื่อสรุปโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2559 พบว่า ทั้งจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน เม็ดเงินลงทุนและการจ้างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีจำนวนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งหมด กล่าวคือ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 110 โครงการ แต่ช่วงเดียวกันของปี 2559 มีเพียง 36 โครงการ
ส่วนเม็ดเงินลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีเพียง 24,101 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมากถึง 27,054 ล้านบาท เช่นเดียวกับการจ้างงานก็ลดน้อยลง คือ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีการจ้างงาน 4,516 คน แต่ในปี 2558 มีการจ้างงานถึง 9,025 คน