เชียงราย - พบชาวเกาหลีเหนือลักลอบเข้าชายแดนเชียงราย อีกระลอกแล้ว ล่าสุดชาวบ้านแจ้งตำรวจเข้าจับกุมได้ 2 กลุ่ม ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ รวม 14 ราย มีเด็กอายุน้อยสุดแค่ 3 ขวบมาด้วย คาดหนีออกจากบ้านเกิดเดินทางผ่านจีน-สปป.ลาว ก่อนเข้าไทย หวังลี้ภัยไปเกาหลีใต้-ประเทศที่สามต่อ
วันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม กก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำการควบคุมตัวชาวเกาหลีเหนือที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเมื่อเย็นวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 5 คน
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีผู้พบคนกลุ่มหนึ่ง มีลักษณะท่าทางไม่ใช่คนในพื้นที่และไม่ใช่นักท่องเที่ยว เดินอยู่บริเวณถนนสาย อ.เวียงแก่น-เชียงของ บ้านปากอิงใต้ ม.16 ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จึงไปตรวจสอบพบกลุ่มคนทั้งชาย และหญิง รวมทั้งเด็กเดินมาเป็นกลุ่ม เมื่อสอบถามไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย และอังกฤษได้
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าทั้งหมดมาจากเกาหลีเหนือ จึงตั้งข้อหาทั้ง 5 คนว่า เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวดำเนินการตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ ตม.ได้ควบคุมตัวชาวเกาหลีเหนือเอาไว้ดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันแล้วจำนวน 9 คน เป็นผู้ใหญ่ทั้งชาย และหญิง 6 คน และเป็นเด็กอีก 3 คน หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 3 ขวบด้วย โดยเหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีชาวเกาหลีเหนือเดินอยู่แถบบ้านปากอิงใต้ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ เช่นกัน จึงไปตรวจสอบก็พบเป็นชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด
สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่ลักลอบเข้าประเทศไทยทางด้าน จ.เชียงรายดังกล่าว มีประวัติเดินทางจากชายแดนเกาหลีเหนือ-จีน และต้องเดินทางผ่านประเทศจีนมากกว่า 3,000 กิโลเมตร ก่อนจะข้ามแดนเข้า สปป.ลาว หรือนั่งมากับเรือแม่น้ำโขง หรือเดินทางผ่านถนนในประเทศเพื่อนบ้านจนใกล้ชายแดนไทยแล้ว มักจะลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยเป็นระลอกๆ เพื่อจะขอลี้ภัยไปยังประเทศเกาหลีใต้ หรือประเทศที่สาม และที่ผ่านมามักจะขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ
วันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม กก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำการควบคุมตัวชาวเกาหลีเหนือที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเมื่อเย็นวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 5 คน
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีผู้พบคนกลุ่มหนึ่ง มีลักษณะท่าทางไม่ใช่คนในพื้นที่และไม่ใช่นักท่องเที่ยว เดินอยู่บริเวณถนนสาย อ.เวียงแก่น-เชียงของ บ้านปากอิงใต้ ม.16 ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จึงไปตรวจสอบพบกลุ่มคนทั้งชาย และหญิง รวมทั้งเด็กเดินมาเป็นกลุ่ม เมื่อสอบถามไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย และอังกฤษได้
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าทั้งหมดมาจากเกาหลีเหนือ จึงตั้งข้อหาทั้ง 5 คนว่า เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวดำเนินการตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ ตม.ได้ควบคุมตัวชาวเกาหลีเหนือเอาไว้ดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันแล้วจำนวน 9 คน เป็นผู้ใหญ่ทั้งชาย และหญิง 6 คน และเป็นเด็กอีก 3 คน หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 3 ขวบด้วย โดยเหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีชาวเกาหลีเหนือเดินอยู่แถบบ้านปากอิงใต้ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ เช่นกัน จึงไปตรวจสอบก็พบเป็นชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด
สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่ลักลอบเข้าประเทศไทยทางด้าน จ.เชียงรายดังกล่าว มีประวัติเดินทางจากชายแดนเกาหลีเหนือ-จีน และต้องเดินทางผ่านประเทศจีนมากกว่า 3,000 กิโลเมตร ก่อนจะข้ามแดนเข้า สปป.ลาว หรือนั่งมากับเรือแม่น้ำโขง หรือเดินทางผ่านถนนในประเทศเพื่อนบ้านจนใกล้ชายแดนไทยแล้ว มักจะลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยเป็นระลอกๆ เพื่อจะขอลี้ภัยไปยังประเทศเกาหลีใต้ หรือประเทศที่สาม และที่ผ่านมามักจะขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ
