นครพนม - หวั่นแข็งตาย ชาวบ้านก่อไฟไล่หนาวให้โค-กระบือ ขณะที่คนขับรถรับจ้างใน บขส.นครพนมก่อไฟรอผู้โดยสารคลายหนาวเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่าจากสภาพที่หนาวเหน็บอุณหภูมิลดฮวบเฉลี่ย 9-11 องศา ส่งผลให้ประชาชนในภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีชายแดนติดฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้รับอิทธิพลคลื่นความหนาวเย็นจากประเทศจีน และเวียดนาม ต่างหาผ้าห่มกันหนาวสวมใส่ และก่อกองไฟผิงไล่ความหนาว ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือต้องก่อไฟไล่ความหนาวให้สัตว์เลี้ยง หวั่นสัตว์เลี้ยงในคอกเป็นโรคปอดบวม
นายประสิทธิ์ชัย ปาลือชา วัย 52 ปี เจ้าหน้าที่สัตวบาล สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองนครพนม หนึ่งในผู้เลี้ยงโค-บือ กล่าวว่า จากสภาพอากาศหนาวในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาหลังมีฝนตกรินลงมาเป็นระยะ ส่งผลให้สภาพอากาศหนาวจัด โค 2 ตัว และกระบือ 3 ตัวที่เลี้ยงไว้เล็บหญ้าในทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีอาการหนาวสั่น บางตัวก็ไม่กินหญ้าแห้ง จึงต้องจูงไปผิงแดดเพื่อให้ปรับสภาพในร่างกายให้อบอุ่น
เกษตรผู้เลี้ยงโค-กระบือ วัย 52 ปี ยังกล่าวด้วยว่า ช่วงพลบค่ำก่อนจะต้อนฝูงวัว-ควายเข้าคอก ตนให้บุตรชายตระเวนเก็บฟืนตามหัวไร่ปลายนามากองรวบรวมไว้ ก่อนนำเศษไม้ฟืนและขอนไม้ขนาดใหญ่มาก่อกองไฟไล่ความหนาวให้ทั้งฝูงก่อนนำเข้าคอก เพราะหวั่นว่าโค-กระบือจะเป็นโรคปอดบวมเนื่องจากสภาวะอากาศหนาวเหน็บ ทั้งนี้ หากล้มตายลงก็จะขาดทุน เพราะซื้อมาขุนไว้ขายตกตัวละ 50,000-60,000 บาท ไว้ตกลูกเพื่อขายต่อให้กลุ่มผู้เลี้ยงในละแวกหมู่บ้านได้กำไรงามต่อไป
ในขณะที่สามล้อสกายแล็บและแท็กซี่รับจ้างในสถานีขนส่งจังหวัดนครพนม ถนนเฟื่องนคร ต้องรวมตัวกันก่อกองไฟผิงไล่ความหนาวเพื่อทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่และช่วงค่ำ ถึงช่วงกลางดึก ที่รถทัวร์สายกรุงเทพฯ-นครพนม และรถโดยสารประจำทางจะแล่นเข้าสถานีปลายทาง ซึ่งต้องทนอยู่กลางดึกและช่วงใกล้รุ่งสางเพื่อหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัว แม้สภาพอากาศจะแปรปรวนในช่วงนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศช่วงนี้ถือว่าหนาวสุดในรอบปีซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังเกิดมีฝนตกปรอยๆ ตลอดในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา