ศูนย์ข่าวศรีราชา - การท่าเรือแหลมฉบังรุกพัฒนา 39 ชุมชนรอบท่าเรือ จัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมบัง เพื่อหารือการดำเนินการไปสู่การพัฒนารอบท่าเรือแหลมฉบัง
วันนี้ (26 ม.ค.) นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมบัง พร้อมด้วย นายวรญาณ บุณราช นายอำเภอศรีราชา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ
นายสนธิ คชวัฒน์ เผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการในวันนี้ได้มีมติเพื่อนำไปสู่การพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือหลายประการ ได้แก่ 1.การท่าเรือฯ จะพัฒนาใช้ประโยชน์พื้นที่ จำนวน 55ไร่ ติดกับชุมชนบ้านบางละมุง เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับดำเนินโครงการพื้นที่สีเขียวเพื่อสาธารณประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบท่าเรือ โดยได้จัดตั้งคณะทำงานพิจารณาการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ และออกแบบเบื้องต้น
โดยการท่าเรือ จะนำเรื่องเสนอคณะกรรมการบอร์ดการท่าเรือฯ เพื่อของบประมาณในการออกแบบ และก่อสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ต่อไป นอกจากนี้ ได้มีมติให้การท่าเรือแหลมฉบังประสานกับศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดชลบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันผู้ที่บุรุกที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 20 ครอบครัว ให้ออกไปจากพื้นที่
2.การท่าเรือฯ จะส่งเสริมให้มีกิจกรรมจัดตั้งโรงเรียนสำหรับผู้สูงอายุให้แก่ชุมชนโดยรอบ โดยจะนำชุมชนไปศึกษาดูงานในภาคเหนือเพื่อกลับมาพัฒนาต่อไป
3.การท่าเรือฯ จะจัดให้มีการฝึกอบรม และจัดทำแผนป้องกันสาธารณภัยของแต่ละชุมชน (28 ชุมชน) เพื่อให้แต่ละชุมชนมีแผนป้องกัน และแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยขอให้แต่ละชุมชนแจ้งความต้องการภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559
4.การท่าเรือฯ และคณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาเบื้องต้นต่อโครงการ และกิจกรรมที่ชุมชนโดยรอบ (ในรัศมี 5 กิโลเมตร) ขอความสนับสนุนซึ่งประกอบด้วย 4 ประเภทโครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างรายได้ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีประมงชายฝั่ง โครงการสวัสดิการสังคม คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม และโครงการเพิ่มพูนประสบการณ์และการเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารท่าเรือ โดยในปี พ.ศ.2559 คาดว่าจะให้การสนับสนุนทั้งสิ้น 15 โครงการ
5.การท่าเรือฯ มอบทุนการศึกษาในปีงบประมาณ 2559 ให้แก่เยาวชนที่เข้าเกณฑ์เรียนดีในมหาวิทยาลัย จำนวน 16 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 218, 850 บาท และจัดให้มีครูสอนภาษาอังกฤษซึ่งเป็นครูต่างชาติสอนในโรงเรียนต่างๆ โดยรอบท่าเรือ และ 6.หากจะมีการปรับปรุง หรือขยายท่าเรือในอนาคตขอให้การท่าเรือแหลมฉบัง ทำการสื่อสารบอกกล่าวให้ประชาชนรับทราบข้อมูล รวมทั้งให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม คิด ร่วมทำ และร่วมรับรู้ด้วยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจและร่วมพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เกิดความยั่งยืนต่อไป