แพร่ - งงกันทั้งบาง ประเทศไทยยุคปฏิรูป พระสงฆ์เมืองแพร่ออกมาร้องเรียนทุจริตงบตำบลละ 5 ล้าน จนคนฝ่ายปกครองเสียประโยชน์ กลับถูกพระชั้นผู้ใหญ่-สำนักพุทธฯ ขับพ้นวัด พ้นจังหวัด ทั้งที่สอบแล้วไม่ผิดวินัยสงฆ์ อ้างสถานการณ์รุนแรงให้ออกจากวัดไปก่อน
บ่ายวันนี้ (23 ม.ค.) พระครูวิจิตรธรรมสาธก รองเจ้าคณะอำเภอวังชิ้น พระครูปัญญาพลกร เจ้าคณะตำบลสรอย พร้อมด้วย นายณฐกร จิรภัคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ ได้เข้าพบ พระยงยุทธทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่
ทั้งนี้ เพื่อสอบสวนพระยงยุทธทีปโก ที่ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เมื่อวันที่ 30 พ.ย.58 ที่ผ่านมา และ ป.ป.ช. ถึงความไม่ชอบมาพากล และการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างกรณีการทุจริตเงินตำบลละ 5 ล้าน ที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม และกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกตำบลของประเทศไทย ทำให้งบประมาณไม่ถึงมือประชาชน และประชาชนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด
ผลของการร้องเรียนทำให้กลุ่มเสียผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน คนในฝ่ายปกครองของจังหวัดแพร่ และผู้บริหารท้องถิ่น ยื่นหนังสือให้คณะสงฆ์ และสำนักพุทธฯ ขับไล่พระยงยุทธ ออกจากจังหวัดแพร่ เนื่องจากไม่ใช่กิจของสงฆ์
การสอบสวนพระยงยุทธ ที่ออกมาเปิดโปงทุจริตในสังคมไทย แม้ไม่พบว่าผิดพระธรรมวินัย แต่คณะสงฆ์และสำนักพุทธฯ มีมติให้ขับพระยงยุทธ ออกจากวัดปางงุ้น และออกจากจังหวัดแพร่ ไปให้เร็วที่สุด ในขณะที่พระยงยุทธ ขอเวลาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ เพราะเห็นว่าการร้องเรียนทุจริตในวงราชการ และเป็นช่วงปฏิรูปประเทศไทยไม่น่าจะเป็นความผิด แต่ทำไม่ถึงได้ถูกลงโทษแบบรุนแรง
นายณฐกร จิรภัคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ กล่าวในที่สอบสวนพระยงยุทธ ว่า จากการสอบสวนพระไม่มีความผิดทางวินัยสงฆ์ แต่ด้วยสถานการณ์รุนแรง จึงขอให้ออกจากวัดไปก่อน
ด้าน พระยงยุทธ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า อาตมาทำงานด้านพระศาสนา ส่งเสริมให้เด็กรักป่า รักธรรมชาติ และเป็นคนดี ทำธนาคารเด็ก ส่งเสริมเยาวชนให้เป็นคนดีเข้าสู่สังคม ทำหน้าที่ปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติในจังหวัดแพร่ และจังหวัดอื่นๆ ที่พอจะไปได้ เป็นบทบาทเล็กๆ ทำตามศักยภาพ
ล่าสุด มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการคิดทำโครงการเสนอต่อรัฐ เพื่อนำงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท และงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง มาแก้ปัญหาในชุมชน กระตุ้นให้เกษตรกรเปลี่ยนวิถีการปลูกพืช หันมาใช้พืชที่ใช้น้ำน้อย แต่พบว่า มีการทำโครงการที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งยังเกี่ยวข้องต่อนโยบายหมู่บ้านศีล 5 ด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ได้ในชั้นผู้นำจะขึ้นป้ายหมู่บ้านศีล 5 ได้อย่างไร
“การร้องเรียนของอาตมา แทนที่ทางราชการจะช่วยกันส่งเสริมสนับสนุน กลับใช้กลไกของพระศาสนาเข้ามาทำร้ายอาตมา ซึ่งทำตัวเป็นพลเมืองที่เห็นแก่บ้านเมือง ต้องการทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ในช่วงปฏิรูป อาตมาคงไม่มีทางสู้ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ทั้งอาตมา และประเทศชาติ แต่อาตมายังยืนยันว่าถ้าจะย้ายอาตมาไปที่ไหนก็ยังทำภารกิจที่ทำให้สังคมร่มเย็นสงบสุข มีความโปร่งใส ไม่ทุจริต จะไม่เปลี่ยนความคิดโดยเด็ดขาด แม้แต่ถ้าจะมาพรากชีวิตอาตมาไปก็ตาม” พระยงยุทธ กล่าว