ลำปาง - ผบช.ภ.5 นำทีมทหาร ตำรวจลำปาง แถลงโชว์ผลงานสกัดจับแก๊งยานรกลอบขนยาบ้าล็อตใหญ่ 4 แสนเม็ด มูลลค่ากว่า 120 ล้าน ดาด่านตรวจบนเส้นทางสายรอง เผยสายข่าวแจ้งข้อมูลชัด จน จนท.เฝ้าระวังจนจับผู้ต้องหาได้ 3 ราย หนีไปได้ 1 พบเป็นเครือญาติกันหมด
วันนี้ (22 ม.ค.) พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในชุดจับกุม ได้นำตัวผู้ต้องหาชาวเขาเผ่าม้ง 3 คน ได้แก่ นายชัยศักดิ์ คงธนจรัส อายุ 35 ปี ชาว ต.เข็กน้อย อ.เข้าคอ จ.เพชรบูรณ์ นางสดใส แซ่ลี อายุ 42 ปี ชาว ต.เข็กน้อย อ.เข้าค้อ จ.เพชรบูรณ์ และนางเกวลิน แซ่ย่าง อายุ 30 ปี ชาว ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก อ.แม่เพริก จ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.17 พัน 2 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง จับกุมได้เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา มาแถลงต่อสื่อมวลชน
การจับกุมมีขึ้นหลังเสายลับได้รายงานข่าวว่า จะมีการขบวนการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ผ่านพื้นที่ภาคเหนือ และ จ.ลำปาง โดยสายลับได้ให้ข้อมูลลักษณะรถ และรูปแบบการลำเลียงค่อนข้างชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จึงตั้งด่านตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งถนนสายหลัก และสายรอง
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 3 กณ 2507 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาตามถนนเส้นทางในหมู่บ้านสาย อ.เถิน-แม่พริก ลำปาง มาจนถึงบริเวณสี่แยกน้ำปลา ต.แม่พริก อ.แม่พริก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งด่านอยู่จึงได้เรียกตรวจสอบพบว่า มีผู้ชายเป็นคนขับ และมีผู้หญิงนั่งมาในรถด้วย 2 คน
ขณะเจ้าหน้าที่ทำการสอบถามอยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีรถกระบะแค็บ สีขาว ทะเบียน บท 1049 จ.ตาก ขับเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบ ก่อนที่ทุกคนในรถทั้ง 2 คัน จะแสดงท่าทีมีพิรุธ จนทำให้ชายที่ขับรถคันแรกได้เปิดประตูรถ และวิ่งหลบหนีไปหายเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืดทันที เจ้าหน้าที่จึงรีบจับกุมคนที่เหลือไว้ทั้งหมด
เมื่อตรวจค้นรถคันที่ 2 (กระบะแค็บ) พบยาบ้าทั้งหมดซุกอยู่ในกล่องส้มเขียวหวาน 4 กล่อง วางอยู่ท้ายรถ โดยมีผลส้มวางอยู่ด้านบน
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทุกคนรับสารภาพว่า เป็นเครือญาติกัน และได้ร่วมกันเป็นขบวนการลำเลียงยาเสพติดโดยใช้ลักษณะมีรถนำ รถตาม และรถลำเลียง ขับไปตามถนนในหมู่บ้าน เพื่อเลี่ยงด่านตรวจบนถนนสายหลัก หนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนยาบ้าทั้งหมดนั้นผู้ต้องหาได้ไปรับมาจาก จ.เชียงราย จะนำไป จ.ตาก เพื่อทำการเปลี่ยนรถขน แล้วขับไปที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดนัดพบกับเครือข่ายที่จะมารอรับ แต่ก็ไปไม่รอดถูกจับกุมได้ในที่สุด
โดยในการลำเลียงครั้งนี้ผู้ต้องหาระบุว่า ได้ค่าจ้างเบื้องต้นก่อน 50,000 บาท หากหลุดรอดไปได้ จะได้รับค่าจ้างเพิ่มอีกเฉลี่ยเม็ดละ 1 บาท และหากผู้ต้องหาได้เงินค่าจ้างส่วนที่เหลือก็จะนำไปใช้หนี้ที่มีอยู่ ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนีไปทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว คือ นายไกรสร มานิตย์เกรียงไกร และได้ออกหมายจับเพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป