ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กำลังทหาร ตำรวจ และ สสจ.ขอนแก่น ใช้ ม.44 บุกทลายแหล่งพักเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิดกฎหมาย เตรียมส่งจำหน่ายในจังหวัคอีสานตอนบน 12 จังหวัด ยึดของกลางมูลค่าร่วม 1.5 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีเจ้าของผลิตภัณฑ์หนัก
วันนี้ (13 ม.ค.) นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รับการร้องทุกข์จากพลเมืองดีว่า ห้องเช่าเลขที่ 172/3-4 หมู่ 7 บ้านกอกน้อย ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางรักษาสิวฝ้า เครื่องสำอางที่ทำให้หน้าขาว กาแฟลดน้ำหนัก ยาแคปซูลลดน้ำหนักปลอม ซึ่งเป็นอันตรายผิดกฎหมาย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกาแฟอวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค ลดความอ้วน และเพิ่มพลังทางเพศ ซึ่งจำหน่ายภายในภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด
โดยมอบหมายให้ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หน.ชป.พท.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ตรงเที่ยง รอง ผกก.สส.ภ.4 หน.ชุดป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ เครื่องหมายการค้า ภาค 4 ภก.เชิดชัย อริยานุชิตกุล เภสัชกรเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บูรณาการพร้อมคำสั่งมาตรา 44 เข้าจับกุมบ้านเช่าดังกล่าว
เมื่อไปถึงที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวพบว่า นายประทีป (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น อ้างว่าเป็นผู้จัดการ บีแอนด์บี กำลังขนสินค้าประเภทเครื่องสำอางที่เป็นครีมทาหน้า 150 กล่อง ยาแคปซูลลดน้ำหนัก 50 กล่อง และกาแฟลดน้ำหนัก 50 กล่อง ใส่ในรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผก 4938 อุดรธานี เจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า จึงได้เข้าจับกุมพร้อมกับขอตรวจค้นภายในบ้านเช่า
ภก.เชิดชัย อริยานุชิตกุล เปิดเผยว่า การตรวจค้นในบ้านเช่าที่นายประทีป อ้างว่าเป็นผู้จัดการและดูแลผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ในบ้านเช่า พบว่า กาแฟลดน้ำหนัก ยาแคปซูลลดน้ำหนัก ครีมทาหน้า ทั้งหมดไม่มี อย.เพื่อจำหน่ายในขอนแก่น และส่งไปจำหน่ายใน 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยมีความผิดใน พ.ร.บ.อาหาร ที่มี อย.ปลอม นำเลขที่ไม่จริงมาใส่ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง นอกจากนี้ เป็นอาหารเสริมที่มีฉลากไม่ถูกต้อง
ส่วนตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เป็นเครื่องสำอางในผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขจดแจ้ง โดยสินค้าที่ผิด พ.ร.บ.มีประมาณ 500 ลัง รวมแล้วมากกว่า 2 แสนกล่อง ราคาประเมินขณะนี้ 1.5 ล้านบาท ถือเป็นการโฆษณาเกินจริงหลอกลวงให้ประชาชนเข้าใจผิด ให้เกิดความน่าเชื่อถือเรื่องของความงาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมความงาม หรืออาหารเสริมที่มีโฆษณาว่า มีตัวยาบางตัวที่มีผลต่อระบบประสาทต่อผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำให้บางคนต้องไปรักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมาก็มี
ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หน.ชป.พท.กองกำลังรักษาความสงบ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับการสั่งการจาก นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น ให้ทหาร ตำรวจ ปกครอง สสจ.ขอนแก่น เข้ามาตรวจสอบโดยใช้มาตรา 44 เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีผลิตภัณฑ์ที่มีสารอันตรายต่อผู้บริโภค ผสมปนเปื้อนด้วย ถ้าปล่อยออกไปสู่ท้องตลาดในภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด จะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคในวงกว้าง หลังจากนั้น ต้องขยายผลไปถึงแหล่งผลิตเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายประทีบ ที่ถูกควบคุมตัวเพราะอ้างเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแลสินค้าทั้งหมดที่อยู่ในบ้านเช่า 2 คูหา โดยได้สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้น นำมาส่งให้ตนที่บ้าน และให้ตนไปรับที่ บขส.3 บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า จึงรับมาและนำมาพักไว้ จากนั้นได้แพกไปขายในร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง ร้านเสริมความสวยความงามที่มีร้านอยู่ทั่วไปใน 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยบวกราคาไม่เกิน 20% ไม่ทราบว่าสินค้านั้นมี อย.หรือไม่ เป็นสินค้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตนรับมาจากอินเทอร์เน็ตแล้วส่งไปขายต่อเท่านั้น ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ตรงเที่ยง รอง ผกก.สส.ภ.4 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สามารถตรวจยึดสินค้าได้กว่า 1,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท พร้อมควบคุมนายประทีป ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยส่ง นายประทีป พร้อมของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า 1.ผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
2.ผลิตอาหารโดยไม่ขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ผลิตอาหารปลอมแสดงฉลากอาหารเพื่อลวงในเรื่องสถานที่ผลิต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท 4.จำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
