ผู้จัดการรายวัน 360 - “อัพชัวร์” บุกตลาดเสริมอาหาร ประเดิมเจาะกลุ่มผู้ชาย แบรนด์ “ทันตา” ก่อนสงสนามสกินแคร์ผู้หญิงปลายปีนี้ คาดหวังตัวแรกทำรายได้ 200 ล้านบาทช่วงปีแรก คาดส่งครบ 5 สินค้าลงตลาดสิ้นปีหน้า ตั้งเอเยนต์ลุยต่างประเทศ
น.ส.นัทธมนต์ รวีพิมพ์กุล ประธานกรรมการ บริษัท อัพชัวร์ แอสเสท จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ LOL (Love of Lifes) ของไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งขึ้นมา 3 ปี ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์ ทั้งนี้ ตลาดรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพในไทยมีประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท เติบโต 15% ต่อปี สัดส่วนตลาดของผู้หญิงประมาณ 26,000 ล้านบาท และสัดส่วนที่สำหรับผู้ชายประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท
ตลาดรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพผู้ชายมีผู้เล่นหลายแบรนด์ แต่มีรายหลักประมาณ 3-4 แบรนด์ มีจุดแตกต่างกันไปเช่น ส่วนใหญ่ใช้ดาราและคนดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ บางรายเน้นช่องทางออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของสารเคมี ขณะที่ของบริษัทฯ ไม่ใช้พรีเซ็นเตอร์ และผลิตจากสูตรที่เป็นสมุนไพร จึงทำให้ยังมีช่องว่างและมีโอกาสในการทำตลาดได้อีกมาก
บริษัทฯ ทำตลาดสินค้ารตัวแรก คือ แบรนด์ “THUNTA-ทันตา” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุขภาพสำหรับผู้ชายอายุ 17-70 ปี เป็นกล่อง มี 4 เม็ด ราคา 890 บาท ช่วงแรกจำหน่าย 490 บาท ใช้มาตรฐานจากเกาหลีใต้ ที่เข้มงวดเกี่ยวกับอาหารและยาอย่างมาก และได้ว่าจ้างโรงงานอื่นในประเทศไทยเป็นผู้ผลิต ขณะนี้วางจำหน่ายแล้วผ่านร้านขายยา และจากนี้จะเริ่มขยายเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรด ร้านบิวตี้ชอป ภายในสิ้นปีนี้ และช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่าย คาดหวังยอดขายช่วงแรกถึงไตรมาสแรกปี 2560 จะทำยอดขายสินค้าตัวแรกได้ 200-250 ล้านบาท
ส่วนสินค้าตัวที่สองจะเป็นสกินแคร์สำหรับผู้หญิงจะวางตลาดเร็วๆ นี้ เป็นอีกแบรนด์หนึ่งภายใต้แบรนด์หลัก LOL ว่าจ้างโรงงานในเกาหลีใต้ผลิต และอีก 3 สินค้าที่เหลือจะวางตลาดปีหน้าที่จะใช้งบตลาด 30 ล้านบาท ที่ผ่านมาใช้งบลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาและว่าจ้างผลิตแล้วไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท และปีนี้จะใช้งบตลาดอีก 15 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้ายจัดทำทั้งอีเวนต์ กิจกรรม การโฆษณา และการทำสื่อออนไลน์
น.ส.ธีรยา สีหาฤทธิ์ ผู้อำนวยการขายระหว่างประเทศ บริษัท อัพชัวร์ แอสเสท จำกัด กล่าวว่า ช่วง 4 เดือนแรกมุ่งทำตลาดในประเทศไทยเต็มที่ เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งก่อน ด้วยเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5% จากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท และจะรุกตลาดต่างประเทศด้วย โดยแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ ขณะนี้ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไปแล้วใน 5 ประเทศ เพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าของเรา คือ ลาว, เวียดนาม, อินเดีย, บรูไน และปากีสถาน คาดว่าจะส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้ภายในสิ้นปี 2559
บริษัทฯ คาดว่าช่วง 1 ปีจากนี้ สินค้าตัวแรกจะมียอดขายประมาณ 200 ล้านบาท และหลังจากวางสินค้าลงสู่ตลาดครบ 5 รายการ ภายในปี 2562 แล้ว คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาทภายในปี 2565 อัตราการเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี ซึ่งสัดส่วนยอดขายมาจากในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%