xs
xsm
sm
md
lg

หวังพึ่งเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,500 ชาวสวนยางบุรีรัมย์แห่ขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1,200 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.บุรีรัมย์ หวังพึ่งเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,500บาท หลังราคาตกต่ำ แห่นำเอกสารหลักฐานสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับเงินช่วยเหลือ แล้วกว่า1,200 ราย วันนี้ ( 12 ม.ค.)
บุรีรัมย์ - เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.บุรีรัมย์ หวังพึ่งเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,500 บาท หลังราคาตกต่ำแห่นำเอกสารหลักฐานสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 1,200 ราย จากเป้าหมายทั้งหมดกว่า 10,300 ราย ขณะที่ สกย.เร่งรวบรวมรายชื่อส่งส่วนกลางเพื่อจ่ายเงินในเดือน มี.ค.

วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่อำเภอต่างๆ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ทยอยนำเอกสารหลักฐานยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ “สร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง” เพื่อรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,500 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง หลังราคายางพาราตกต่ำ

โดยล่าสุดขณะนี้ได้มีเกษตรกรมายื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 1,200 ราย จากเป้าหมายทั้งหมด 10,339 ราย เนื้อที่ปลูกยางกว่า 148,000 ไร่ ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยนำหลักฐานมาสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องจนครบตามเป้าหมายภายในสิ้นเดือนมกราคม 2559 นี้ จากนั้นจะส่งรายชื่อให้คณะกรรมการระดับอำเภอแต่ละอำเภอตรวจสอบรับรองคุณสมบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่ทาง สกย.จะรวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบรับรองสิทธิ ส่งไปยัง ธ.ก.ส.ส่วนกลาง เพื่อดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,500 บาท ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำอยู่ในขณะนี้

จากข้อมูลทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ มีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอยู่จำนวน 21,924 ราย เนื้อที่ 236,370 ไร่ ในจำนวนนี้เปิดกรีดแล้ว 194,563 ไร่ โดยเกษตรกรที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจะต้องเป็นสวนยางที่เปิดกรีดแล้วเท่านั้น

ด้านนายดิษฐเดช วัฒนาภร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับเกษตรกรที่จะมาสมัครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเจ้าของสวนยางที่มีชื่ออยู่ในเอกสารหลักฐานที่ดินซึ่งมีสิทธิได้รับผลผลิตจากสวนยางในที่ดินนั้นไม่ว่าจะกรีดเองหรือจ้างกรีด

ส่วนกรณีเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิถือครองที่ดินโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ใช่ที่ดินที่ได้รับจัดสรรจากหน่วยงานรัฐ เช่น ส.ป.ก. นิคมสหกรณ์ จะไม่มีสิทธิในการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยจะยึดฐานข้อมูลเดิมที่เกษตรกรเคยขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรอยู่แล้ว



นายดิษฐเดช  วัฒนาภร ผู้ช่วยผอ.สกย. จ.บุรีรัมย์
กำลังโหลดความคิดเห็น