นครพนม - ชาวสวนยางอ่วม ราคายางลงเหวร่วงหนักกิโลกรัมละ 13 บาท ประธานสหกรณ์ชาวสวนยางอำเภอนาแกระบุชาวบ้านท้อจนต้องงดกรีดทำให้ตกงานไม่มีรายได้ ยอดรับซื้อเหลือวันละแสน จากเดิมสูงกว่าล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำถึงขั้นวิกฤตไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลานับ 2 ปีราคายา โดยจะวิ่งอยู่ระหว่างกิโลกรัมล่ะ 17-25 บาทเท่านั้น ล่าสุดร่วงลงมากิโลกรัม 12-13 บาท กระทบชาวสวนยางในหลายอำเภออย่างหนัก ต่างปิดหน้ายางงดกรีดไม่คุ้มค่าปุ๋ย และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่หลายครอบครัวที่รับจ้างกรีดยางแบ่งกับเจ้าของสวน 60-40 ต้องตกงานไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว
นางพิศ งอยภูธร วัย 40 ปี ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน เปิดเผยว่า ครอบครัวไม่มีที่นาต้องซื้อข้าวกินเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างกรีดยางกับเจ้าของสวนยางแบ่งกัน 60-40 โดยจะขายในรูปแบบยางถ้วย แต่ก่อนช่วงยางราคาดีขายยางรอบหนึ่งตนจะมีรายได้ราว 7,000 บาท/เดือนขึ้นไป ต่อมาราคายางก็ตกลงมานับตั้งแต่รัฐบาล คสช.บริหารประเทศราคายางถ้วยอยู่ระหว่าง 17-25 บาท ถึงแม้ราคาไม่ดีก็ยังพอมีรายได้เลี้ยงครอบครัวมีค่าขนมค่าข้าวให้ลูกไปโรงเรียนใช้จ่ายเปิดเทอมพอถูไถไปได้
แต่ขณะนี้ราคายางตกลงมากิโลกรัมละ 13 บาท เจ้าของสวนสั่งปิดหน้ายางงดกรีด เสียหน้ายางไม่คุ้มค่าปุ๋ยทำให้เดือดร้อนมาก ยังไม่รู้จะไปทำงานอะไรเพราะกรีดยางมากว่า 20 ปีแล้ว
นายทัยฮง พ่อสาร อายุ 57 ปี ประธานสหกรณ์ชาวสวนยางตำบลพุ่มแกจำกัด อ.นาแก เปิดเผยว่าผลกระทบเกี่ยวกับปัญหาราคายางตกต่ำในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ตอนนี้กำลังประสบปัญหาหนัก จากปัญหาราคายางตกต่ำในรอบ 10 ปีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปัจจุบันราคายางก้นถ้วยอยู่ที่ประมาณแค่ 13 บาท ส่วนราคายางแผ่น ประมาณกิโลกรัมละ 25 บาท ส่งผลให้เกษตรกรสวนยางในพื้นที่เดือดร้อนหนักต้องแบกภาระต้นทุนค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน ค่าแรงงานกรีดยาง ทำให้บางรายยอมหยุดกรีดยาง ปล่อยทิ้งชั่วคราว เนื่องจากกรีดไปขายแต่ได้ราคาต่ำขาดทุน ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน โดยในพื้นที่ จ.นครพนม มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่กรีดยางพารา ประมาณ 2.6 แสนไร่ เฉพาะพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม มีประมาณ 90,000 ไร่ เดิมสหกรณ์ชาวสวนยางตำบลพุ่มแกจำกัด อ.นาแก จ.นครพนม จะมียอดรับซื้อประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
แต่ปัจจุบันมีปัญหาราคาตกต่ำ เหลือยอดรับซื้อแค่วันละประมาณ 1 แสนบาท เพราะส่วนใหญ่งดกรีดยางมาขาย อีกทั้งไม่มีพ่อค้าคนกลางมาประมูลรับซื้อเลย ชาวบ้านต้องเดือดร้อนแบกภาระหนี้สิน และต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือแก้ไขเร่งด่วน ทั้งนี้ อยากฝากวิงวอนไปถึงรัฐบาลให้หาทางแก้ไขจริงจังเพราะเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร เพราะบางรายไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้จากทางอื่นนอกจากทำสวนยาง บางคนมีภาระหนี้สิน ผ่อนรถ ผ่อนธนาคาร ซื้อปุ๋ยเงินผ่อน ค่าแรงงานสารพัด หากช่วยเหลือล่าช้าปัญหาตามมามากมายแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมานานแต่แก้ไขไม่จบ
อยากให้ทางรัฐบาลพิจารณาทบทวนหาทางแก้ไขเป็นปัญหาเร่งด่วน ซึ่งทางออกน่าจะเริ่มจากการนำยางพาราไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในประเทศให้มากที่สุด พร้อมหาทางแปรรูปสต๊อกเพื่อต่อรองราคากับตลาดยางพาราต่างประเทศและหาทางเยียวยาในช่วงที่เกิดปัญหา เพราะหากแก้ไขล่าช้าเกษตรกรจะต้องมีภาระหนี้สินล้นตัวเนื่องจากแบกภาระต้นทุนมานาน
จึงขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน ยอมรับว่าท้อมากกับปัญหาราคายางพาราตกต่ำ