สุรินทร์ - สุดมัน...การแข่งขัน “ตำส้มตำลีลา” ชาว อ.สนม เมืองช้าง ทั้งทีมสูงวัย และนักเรียนเยาวชน งัดทีเด็ดโชว์กันแบบไม่มียั้ง ทำเอากรรมการตัดสินไม่ได้ถึงขั้นต้องจับสลากแบ่งถ้วยรางวัลกันแทน ขณะชมรมผู้สูงอายุบานไม่รู้โรยไม่น้อยหน้า โชว์ “รำกงก้า” แบบเต็มวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสนม จ.สุรินทร์ นายธัชชัย ศรีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการตลาดประชารัฐ พัฒนารายได้แบบเศรษฐกิจพอเพียง อ.สนม จ.สุรินทร์ ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ตลาดย้าววว...ยาว!! ถนนคนเดินสนม ประจำปี 2559 มี นายเพชร แสนสุข นายกเทศมนตรีตำบลสนม ในนามของคณะกรรมการจัดงาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
ทั้งนี้ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโดยเน้นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจจากฐานราก ซึ่งอาศัยความเข้มแข็งของชุมชนเป็นพลังสำคัญในการเร่งรัดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ความยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” ที่มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนผสมผสานร่วมมือกันเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ฐานรากให้มั่นคง
ภายในงานมีการจัดกิจกรรม มหกรรมอาหารปลอดภัย การประกวดตำส้มตำลีลา การประกวดตำน้ำพริกลีลา และการประกวด Miss Food Safety Festival 2016 สามารถสร้างสีสันและความสนุกสนานให้แก่ผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะการแสดง “รำกงก้า” ของชมรมผู้สูงอายุบานไม่รู้โรย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุในเขตเทศบาลตำบลสนม อายุตั้งแต่ 80-89 ปี รวมกลุ่มกันเพื่อออกกำลังกายด้วยการนำรำวงย้อนยุคมาประยุกต์ใช้ ทั้งจังหวะชะชะช่า แทงโก้ ร็อก และแซมบ้า เพื่อเล่าเรื่องราวประกอบดนตรีจังหวะสนุกสนาน และแต่งกายชุดพื้นเมืองที่สวยงาม แสดงออกถึงวัฒนธรรมพื้นเมืองได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างเสียงฮือฮาสนุกสนานได้มากที่สุด คือ การประกวดตำส้มตำลีลาสูงวัยระหว่างชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอสนม กับชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดสุรินทร์ ที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต่างงัดทีเด็ด ทั้งตำ ทั้งเต้น ประกอบจังหวะดนตรีกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้รสชาติแซบและลีลาถูกใจคณะกรรมการผู้ตัดสิน จึงโชว์ลีลาการเต้น ฟ้อนรำ การควงสาก สร้างสีสันให้การแข่งขันกันแบบไม่มียั้ง ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจอย่างคึกคัก
จากนั้นเป็นการประกวด ตำส้มตำลีลาระดับนักเรียนเยาวชน จำนวน 10 ทีม ชิงรางวัลเงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล โดยกติกาการแข่งขันคือ หนึ่งทีมมีผู้เข้าแข่งขัน 3 คน จะสลับเปลี่ยนกันตำก็ได้ ภายในเวลา 10 นาที อุปกรณ์ประกอบด้วย ครก สาก เครื่องปรุง เช่น มะละกอ มะนาว น้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาล ซึ่งทุกอย่างให้เตรียมมาเองหมด โดยกรรมการจะให้คะแนนความอร่อย สะอาดถูกหลักอนามัย และคะแนนกองเชียร์ คือ การแต่งตัว การเต้นเข้าจังหวะดนตรีอย่างสนุกสนานเหมาะสม
เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันประกวดตำส้มตำลีลาระดับนักเรียน ปรากฏว่าทุกทีมต่างออกลีลาท่าเต้นอย่างไม่เกรงใจใคร ทั้งที่ต่างสวมใส่ชุดไทย ชุดแฟนซีสวยงาม หลายทีมทั้งตำทั้งเต้นกันอุตลุด และทุกทีมออกลีลาพอๆ กัน ต่างเอามันสนุกสนานไว้ก่อนจนแทบหาจุดเด่นแตกต่างให้กรรมการตัดสินใจให้คะแนนไม่ได้ สุดท้ายต้องจับสลากแบ่งรางวัลกันไป
นางสุวิน ศรีชัยงาม ที่ปรึกษาชมรมผู้สูงอายุบานไม่รู้โรย และสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ อ.สนม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การแสดงวันนี้เป็นการแสดงรำวงย้อนยุค แต่ได้ประยุกต์มาเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ ผสมผสานหลักวิชาการ ซึ่งการออกกำลังกายจะต้องอบอุ่นร่างกายด้วยจังหวะดนตรีเบาๆ ต่อด้วยจังหวะเร้าใจเพื่อการบริหารทุกสัดส่วนของร่างกาย และช่วงสุดท้ายที่ยืนเข้าแถวคือการคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งสมาชิกผู้ที่มีอายุมากที่สุดของชมรม คือ 86 ปี
ทางด้าน นายตะวัน สุขสม นักเรียนชั้น ม.5/4 โรงเรียนสนมวิทยาคาร กล่าวว่า การแข่งตำส้มตำลีลาเหนื่อยมาก ทีมตนเพิ่งนัดเจอกันเมื่อเช้า โดยไม่มีการซ้อมมาก่อน แค่ได้ยินเสียงดนตรีมาก็แข่งขันเต็มที่ รู้สึกตื่นเต้นและเป็นครั้งแรกของชีวิตอีกด้วย