ตาก - ตามรอย “ครูปู-ครูอัตราจ้าง กศน.ท่าสองยาง” ผู้เป็นมากกว่า “ครู” แบกศิษย์ป่วยหนักเดินเท้ากลางป่าลึกมาขอความช่วยเหลือ ล่าสุดผู้ว่าฯ ยกเป็น “คนดีศรีเมืองตาก” เผยนาทีวิกฤตเดินมาถึงหมู่บ้านแล้วทั้งหมู่บ้านกลับไม่มีรถแม้แต่คันเดียว โชคดีพ่อค้าพืชไร่ต่างถิ่นเข้ามา แต่ยังต้องแบกศิษย์ขึ้นยอดดอยกว่า 2 กม.รอหาที่กลับรถกันอีก
วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการนำภาพ “ครูปู หรือครูรัชนก เงินงามมีสุข-ครู กศน.ท่าสองยาง จ.ตาก” ที่แบกลูกศิษย์หญิงวัย 11 ขวบ ที่มีอาการป่วยหนักกะทันหันลงดอย เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ก่อนที่จะมีการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าสองยางจนสำเร็จ ออกเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล จนได้รับเสียงชื่นชมในจิตวิญญาณแห่งความเป็น “ครู” อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ “ครูปู-ครูรัชนก เงินงามมีสุข” อายุ 31 ปี เป็นครูอัตราจ้างชั่วคราวประจำศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขาที่เดินทางลงดอยสูงมาพร้อมลูกศิษย์ ได้เล่าเหตุการณ์วินาทีวิกฤต ช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตายของเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเองว่า ในช่วงคืนวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งข่าวว่าเด็กหญิงวัฒนาพร วนาสร้าง อายุ 11 ขวบ ลูกศิษย์ที่กำพร้าพ่อ-แม่ และตนให้การดูแลอุปการะเปรียบเสมือนลูกคนที่สองของตน เกิดอาการปวดท้อง และมีอาการอาเจียนต่อเนื่องอย่างรุนแรงเกือบตลอดทั้งคืน โดยที่โรงเรียนไม่มียารักษาแต่อย่างใด
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (7 ม.ค.) อาการของเด็กหญิงวัฒนาพรยังไม่ดีขึ้น แต่กลับทรุดลงอย่างต่อเนื่อง “ครูปู” จึงตัดสินใจพยุงร่างลูกศิษย์ออกจากโรงเรียนกลางยอดดอยสูง ประคองลงดอยมาในสภาพทุลักทุเล เนื่องจากไม่มีรถยนต์ที่ใช้ลำเลียงตัวเด็กไปส่งโรงพยาบาล โดยได้เดินเท้าลงดอยมาหลายกิโลเมตร จนมาถึงหมู่บ้าน มีเพียงน้ำดื่มสะอาดติดตัวมาเพียง 2 ขวดเท่านั้น
แต่พอมาถึงหมู่บ้านก็เป็นเวลาใกล้ค่ำ ปรากฏว่าในหมู่บ้านไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว อย่างไรก็ตาม ในนาทีวิกฤตก็ยังพอมีแสงสว่าง เนื่องจากขณะนั้นมีพ่อค้าคนกลางจากต่างหมู่บ้านขับรถยนต์มารับซื้อพืชไร่ในหมู่บ้าน “ครูปู” จึงรีบวิ่งไปโบกรถคันดังกล่าวเพื่อขออาศัยโดยสารพาเด็กหญิงไปส่งโรงพยาบาล
แต่แม้ว่าพ่อค้าพืชไร่คนดังกล่าวจะตกลงให้ครูปู และลูกศิษย์ติดรถไปด้วย อุปสรรคก็ไม่จบ เนื่องจากเส้นทางที่จะออกมาจากหมู่บ้านไม่มีทางให้กลับรถเลยเพราะติดกับขอบเหว จนครูต้องแบกร่างของเด็กหญิงเดินขึ้นเขาสูงไปเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรเพื่อขึ้นไปรอรถยนต์ที่ใช้วิธีถอยหลังขึ้นเขาสูงแทนการกลับรถ จนรถสามารถถอยหลังขึ้นมารับครูปู และศิษย์ที่รอบนยอดดอยได้เป็นผลสำเร็จ
จากนั้นก็รีบนำร่างของเด็กหญิงนั่งโดยสารรถยนต์ลงดอยสูง ซึ่งเป็นเส้นทางอันตรายสองข้างทางเป็นป่ารกทึบ และบางจุดเป็นเหวลึกเสี่ยงอันตรายอย่างมากในการเดินทางในเวลากลางคืน โดยการเดินทางเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากระยะทางจากหมู่บ้านเซกรา-อ.ท่าสองยาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลอำเภอท่าสองยาง ไกลกว่า 100 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง
แต่ในที่สุดก็สามารถนำตัวเด็กหญิงที่มีอาการอิดโรยหมดแรงจากการอาเจียนอย่างรุนแรงมาตลอดทาง นำตัวส่งให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลท่าสองยางทำการรักษาช่วยชีวิตได้ทันเวลา และพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะมีอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างรุนแรง เป็นเวลา 2 วัน ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลฯ กลับบ้านพักได้แล้ว
ด้านนายภานุ วงษ์ถาวรเรือง ผู้อำนวยการ กศน. อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เล่าว่า ปัจจุบันมีครูอัตราจ้างจำนวน 160 คน ที่สอนอยู่ใน 77 โรงเรียนถิ่นทุรกันดานเขตพื้นที่ภูเขาสูง ในเขตการควบคุมดูแลของศูนย์ กศน.อำเภอท่าสองยาง ซึ่งครูทุกคนมุ่งมั่นทำการสอนเด็กนักเรียน โดยครูบางคนต้องแบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวง เป็นทั้งครู และผู้ปกครองของเด็กที่ยากไร้ในเวลาเดียวกัน
โดยครู 1 คน จะได้เวลาพัก 7 วันในรอบ 1 เดือน แต่เนื่องจากการเดินทางที่แสนยากลำบาก โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ซึ่งมีฝนตกหนักในพื้นที่ป่าเขา ครูเกือบทุกคนก็แทบไม่ได้พัก เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกมาจากพื้นที่ได้ ยานพาหนะก็มีเพียงรถจักรยานยนต์ส่วนตัวที่อยู่ในสภาพเก่าทรุดโทรม จนบางครั้งครูหลายๆ คนก็ได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บจากการเดินทางอยู่หลายครั้ง และยังประสบปัญหาการเจ็บป่วย เช่น ไข้มาลาเรีย และโรคติดต่อในเขตป่าเขา แต่ก็ไม่เคยทำให้กำลังใจของครูดอยทุกคนท้อแท้แต่อย่างใด กลับเพิ่มแรงใจให้ต่อสู้กับอุปสรรคทุกอย่างเพื่อเด็กนักเรียนผู้ยากไร้ ในอุดมการณ์ของครูทุกคน
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดทางนายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ทำเรื่องเสนอเพื่อยกย่อง “ครูปู” ให้เป็นครูตัวอย่างแห่งคนดีศรีเมืองตาก และจะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแห่งการทำความดี เสียสละในหน้าที่คนอาชีพครูดอย ผู้ปิดทองหลังพระ ใน “วันครู” ที่กำลังจะมาถึงนี้