อุตรดิตถ์ - ชาวอุตรดิตถ์โอดเทศบาลเมืองฯ สร้างถนนใหม่ติดตัวบ้านจนเปิดปิดประตู-หน้าต่างไม่ได้ ผิดข้อตกลงเดิม เสี่ยงรถแหกโค้งชนบ้านซ้ำ แถมตัวถนนสูงกว่าร่วมเมตร ทำน้ำไหลเข้าตัวบ้านอีก ล่าสุดนายกเล็กรุดเจรจาก่อนควักงบรื้อบ้านออกอีก 5 เมตร พร้อมต่อเติมให้ใหม่แทน
วันนี้ (11 ม.ค.) นางพรพรรณ เป่าสวน อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 7/19 ชุมชนหลัง รพช.เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตนพร้อมกับครอบครัว รวม 6 ชีวิต เป็นผู้ใหญ่ 4 คน เด็กอีก 2 คน อาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานกว่า 30 ปีเศษ และไม่มีถนนสายหลักตัดผ่าน
แต่เมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมามีกลุ่มทุนมาซื้อที่ดินโดยรอบเพื่อสร้างคอนโดมิเนียม พร้อมยกที่ดินบางส่วนใหญ่เทศบาลเมือง (ทม.) อุตรดิตถ์ ตัดถนนผ่านตั้งแต่แยกโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี-ถนนสายเกาะกลาง หรือถนนเจษฎาบดินทร์ โดยตั้งชื่อถนนว่า “ถนนดีอุดม” ซึ่งตนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมจึงยอมรื้อถอนบ้านบางส่วนออกจากแนวของถนน ตอนนั้นทาง ทม.อุตรดิตถ์จะจ่ายค่ารื้อถอนให้ 70,000 บาท แต่ตนไม่รับ เพราะไม่เพียงพอที่จะสร้างบ้านใหม่ โดยขอให้ ทม.อุตรดิตถ์ต่อเติมบ้านให้แทน
แต่หลังจากทาง ทม.อุตรดิตถ์ ก่อสร้างถนนเสร็จแล้วปรากฏว่าแนวถนนกว้างกว่าที่เจรจากันไว้ ทำให้หลังคาบ้านตนยื่นเข้าไปในเขตถนน ประตูและหน้าต่างบ้านปิดเปิดไม่ได้เลย แถมตัวบ้านยังต่ำกว่าถนนกว่า 1 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้าน
“ปัญหานี้ทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องนอนผวามานาน เกรงว่าจะมีรถมาชนบ้าน เพราะนอกจากบ้านจะติดกับถนนแล้ว ถนนช่วงนี้ยังเป็นทางโค้ง ถ้าขับรถมาเร็ว หากเลยโค้งหรือชิดซ้ายมือเกินไปก็จะชนบ้านเอาได้ หากเกิดอุบัติเหตุคนในบ้านซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยก็จะเกิดอันตรายแน่นอน รู้ว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายจะให้รื้อถอนก็ไม่มีเงิน หาก ทม.อุตรดิตถ์ รื้อถอนให้ก็ยินยอม” นางพรพรรณกล่าว
ต่อมาได้มีการประสานกับนายสำราญ เอื้อจิรวาณิชย์ นายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมลงพื้นที่ดูปัญหาบ้านหลังดังกล่าวที่ตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุ ซึ่งนายสำราญได้เจรจากับเจ้าของบ้านแล้ว เบื้องต้นเจ้าของบ้านยินยอมที่จะให้ ทม.อุตรดิตถ์ รื้อถอนบ้านที่ติดถนนออก 5 เมตร และต่อเติมตัวบ้านด้านหลังเพิ่มพร้อมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด