ASTV ผู้จัดการ - โจรแสบเข้างัดบ้านในหมู่บ้านดังย่านเพรชเกษมกวาดทรัพย์สินหลายรายการเจ้าทุกข์โอดเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ได้4เดือน สุดเสียดายพระสมเด็จที่ปู่-ย่าให้ไว้
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 ต.ค. พ.ต.ต.หญิง อัมพร จันทะวงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ภายในบ้านพักเลขที่ 1730/337 หมู่บ้านพฤกษา 61 ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม และกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ ความสูง 2 ชั้น ปลูกในรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 26 ตารางวา พบ จ.ส.อ.เสฏฐศิษฎ์ เทียนประทีป อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/17211 อาคารสวัสดิการทุ่งสีกัน 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หัวหน้าแผนกรถยนต์บรรทุกกลาง กองขนส่ง สำนักงานสนับสนุนหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เจ้าของบ้าน ยืนรอให้การเจ้าหน้าที่อยู่ จากนั้น จ.ส.อ.เสฏฐศิษฎ์ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบริเวณโดยรอบและภายในบ้านพัก จากการตรวจสอบพบร่องรอยการงัดแงะที่ประตูชั้นในของตัวบ้าน บริเวณประตูกระจกและประตูเหล็กดัด เมื่อตรวจสอบภายในห้องโถง ชั้นที่ 1 และห้องนอน จำนวน 2 ห้อง และห้องพระอีก 1 ห้อง บนชั้นที่ 2 มีร่องรอยถูกคนร้ายรื้อค้นทรัพย์สิน เบื้องต้น มีทรัพย์สินสูญหาย 4 รายการ ประกอบด้วย โทรทัศน์ ยี่ห้อ แอลจี ขนาด 48 นิ้ว 1 เครื่อง นาฬิกา ยี่ห้อ คาสิโอ รุ่น โปรเทก 1 เรือน เงินสด 10,000 บาท สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท พร้อมพระสมเด็จบางขุนพรหมเลี่ยมทอง 1 องค์ รวมมูลค่า กว่า 100,000 บาท
จ.ส.อ.เสฏฐศิษฎ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีกัน 3 คน พ่อแม่ลูก โดยตนกับภรรยาทำงานที่เดียวกัน ส่วนลูกยังเรียนหนังสืออยู่ ปกติจะเข้าบ้านแบบวันเว้นวัน เพราะยังอยู่ช่วงทยอยย้ายของและต่อเติมบ้าน ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้าประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมา ตน ภรรยาและลูกต่างไปทำงานและเรียน จึงไม่มีใครอยู่บ้าน โดยตนออกจากบ้านเป็นคนสุดท้ายก็ใช้กุญแจล็อคบ้าน ทั้งประตูใหญ่หน้าบ้านและประตูชั้นในที่ใช้เข้าตัวบ้าน จนกระทั่ง ช่วงค่ำตนจึงกลับเข้าบ้าน พบว่าที่บริเวณประตูใหญ่หน้าบ้านไม่ได้ล็อคกุญแจ ทั้งที่ก่อนออกไปล็อคไว้ พอเข้ามาดูที่ประตูชั้นในก็พบเปิดคาไว้ ทั้งที่ก่อนออกก็ล็อคไว้เหมือนกัน เมื่อดูที่ล็อคกุญแจถึงพบร่องรอยการงัดแงะที่ประตูกระจกและเหล็กดัด เลยรู้ว่าถูกคนร้ายเข้าบ้านแล้ว จึงตรวจสอบดูทรัพย์สิน ปรากฏว่า ที่ห้องโถงชั้น 1 สมาร์ททีวี ยี่ห้อ แอลจี ขนาด 48 นิ้ว มูลค่า 37,000 บาท ได้หายไป อีกทั้ง นาฬิกา ยี่ห้อ คาสิโอ รุ่น โปรเทค มูลค่า 14,000 บาท ที่เก็บไว้ในตู้ที่ใช้วางทีวีดังกล่าวก็หายไปด้วย
จ.ส.อ.เสฏฐศิษฎ์ เปิดเผยต่อไปว่า จากนั้น ตนได้ไปดูทรัพย์สินบนชั้น 2 พบว่า ประตูห้องนอน 2 ห้อง และห้องพระ 1 ห้องเปิดอยู่ เมื่อเข้าไปดูห้องนอนห้องแรกพบว่ามีร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สิน โดยคนร้ายได้นำกระเป๋าเก็บเอกสารซึ่งเป็นแบบล็อคได้ ไปงัดแงะที่ห้องนอนห้องที่สอง แถมยังเปิดเครื่องปรับอากาศขณะรื้อค้นด้วย ก่อนจะงัดเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท พร้อมพระสมเด็จบางขุนพรหมเลี่ยมทอง 1 องค์ ที่เก็บไว้ในกระเป๋าดังกล่าวไป นอกจากนี้ ยังขโมยเงินสดจำนวน 10,000 บาท ซึ่งเป็นเงินขวัญถุงขึ้นบ้านใหม่ที่พ่อแม่ตนให้ไว้ในห้องพระไปอีก ก่อนจะหลบหนีไป
“ตนซื้อบ้านมาได้ 4 เดือน ราคากว่า 2.3 ล้านบาท ก่อนซื้อก็ดูมาตรการรักษาความปลอดภัย พบว่ามีการโฆษณาว่ารปภ.ประจำหมู่บ้าน จะคอยขี่จักรยานดูแลความปลอดภัยทุกๆ 1 ชม. แต่พอมาอยู่จริง ช่วง 2 เดือนนี้ กลับไม่มีการกระทำอย่างที่โฆษณาไว้ อีกทั้ง รปภ.ที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน มักไม่ค่อยตรวจรถที่วิ่งเข้าออกหมู่บ้านเท่าที่ควร คือ ตนไม่เคยเห็นรถที่ไม่มีสติ๊กเกอร์หมู่บ้านแลกบัตร หรือ มีการจดทะเบียนรถที่ไม่ใช่ลูกบ้านเลย นอกจากนี้ ตั้งแต่ตนมาอยู่ ก็ได้สอบถามเพื่อนบ้านเลยรู้ว่า คนละแวกนี้ถูกขโมยขึ้นบ้านมาแล้ว 3 ครั้ง ตนเป็นหลังที่ 4 ทำให้เกิดความสงสัยในการรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทั้งนี้ ในบรรดาของที่หายไป ตนเสียดายพระสมเด็จฯมากที่สุด เพราะเป็นของที่ปู่ย่าให้ไว้ ตนไม่รู้รุ่นหรือปีใด แต่ให้เซียนพระ ย่านท่าพระจันทร์ดูแล้วทราบว่า เป็นของแท้และเป็นรุ่นที่คนตามหา จึงตีมูลค่าไม่ได้ ส่วนเรื่องคนร้ายจะเป็นคนในหรือคนนอก ตนสงสัยว่าเป็นคนในหมู่บ้าน เพราะรู้เวลาเข้าออกบ้านเป็นอย่างดี” จ.ส.อ.เสฏฐศิษฎ์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พ.ต.ต.หญิง อัมพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับประวัติอาชญากร เบื้องต้น สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมากัน 2 ขึ้นไป เนื่องจากทีวีที่ถูกขโมยมีขนาดใหญ่ ส่วนจะเป็นคนในหรือนอกหมู่บ้าน ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอสอบสวนพยานเพิ่มเติม รวมถึง รอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไล่ดูกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อใช้หาเบาะแส