ศรีสะเกษ - แขวงทางหลวงศรีสะเกษสั่งรื้อร้านค้าบ้านเรือนชาวอำเภอพยุห์ จ.ศรีสะเกษ รุกล้ำเขตทางหลวงจำนวนมากกว่า 100 ราย ให้เสร็จสิ้นใน 15 วัน ขณะพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน พร้อมให้ความร่วมมือ
วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนสายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ บริเวณริมถนนกลางอำเภอพยุห์ จ.ศรีสะเกษ นายพิพัฒ กาญจนากร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 พร้อมด้วย นายชิตชวาล ศรีคราม นายกเทศมนตรีตำบลพยุห์ และคณะ ได้ทำการเดินรณรงค์เพื่อให้ประชาชนชาว อ.พยุห์ ที่ก่อสร้างร้านค้าและบ้านพักให้ทำการรื้อถอนออกไปจากเขตทางหลวง เนื่องจากมีบ้านเรือนร้านค้าสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวงจำนวนมาก และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้
โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 ได้ทำการวัดระยะทางจากเส้นจุดกึ่งกลางของถนนออกไปยังข้างถนนระยะทาง 20 เมตร หากมีการสร้างรุกล้ำเข้ามาภายในระยะทาง 20 เมตร ร้านค้าและบ้านเรือนที่รุกล้ำต้องรื้อถอนออกไป ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนชาว อ.พยุห์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีร้านค้า บ้านเรือนของชาวบ้านสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวงจำนวนมาก
นายพิพัฒ กาญจนากร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 กล่าวว่า กรมทางหลวงโดยแขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 ได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกที่ดินเขตทางหลวงหมายเลข 221 ตอนศรีสะเกษ-ภูเงิน ระหว่าง กม.18+000-กม.21+000 โดยทำการก่อสร้างต่อเติมรุกล้ำเขตทางเท้า ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกปลอดภัยในการสัญจรไปมาบริเวณทางเท้า ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่นและอาจเกิดอุบัติเหตุได้
อีกทั้งเป็นนโยบายเร่งด่วนด้านการจัดระเบียบเขตทางเพื่อรองรับการพัฒนาและปรับปรุงเขตทางหลวงทุกสายให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ดังนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าของร้านค้าและบ้านที่สร้างรุกล้ำเขตทางหลวงให้ทำการรื้อถอนหรือจัดการให้ออกไปจากที่ดินเขตทางหลวงภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 จำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายชิตชวาล ศรีคราม นายกเทศมนตรีตำบลพยุห์ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าในเขต อ.พยุห์มีร้านค้าบ้านเรือนของประชาชนสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวงประมาณ 100 หลังคาเรือน ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนชาว อ.พยุห์แล้วว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากหากไม่ทำการรื้อถอนออกไปอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาว อ.พยุห์ เป็นอย่างดียิ่ง
ทางด้าน นางสนอง คำอุดม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 ม.13 บ้านพยุห์ ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าบริเวณที่ต่อเติมบ้านพักออกไปเป็นเขตทางหลวง แต่เมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 ตนและเพื่อนบ้านก็พร้อมจะรื้อถอนออกไปเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และจะระดมญาติพี่น้องมาทำการรื้อถอนในเร็วๆ นี้