ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ เชื่อตลาดส่งออกในปี 2559 จะยังไปได้สวยจากจุดแข็งด้านตลาดส่งออกที่มั่นคง แม้ต้องเผชิญปัญหาด้านราคา โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียมีปัญหากับยุโรปตะวันออก ที่อาจทำให้คู่ค้าของรัสเซียหันมาส่งออกเนื้อไก่ไปยังประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทยมากขึ้น พร้อมกระตุ้นผู้ประกอบการเร่งสร้างมาตรฐานการผลิตเพื่อรักษาฐานตลาดสำคัญ
นางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณกรุ๊ป ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2559 และสถานการณ์การส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังต่างประเทศว่า จะยังคงไปได้สวยจากการมีจุดแข็งด้านตลาดส่งออกที่ค่อนข้างมั่นคง ทั้งในยุโรป และเอเชียบางประเทศ แต่ก็เชื่อว่าในปี 2559 ผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยจะต้องประสบปัญหาด้านราคา หลังจากในช่วงปลายปี 2558 ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของการส่งออกเนื้อไก่ของกลุ่มผู้ผลิตในประเทศแถบยุโรปตะวันออก เริ่มมีปัญหากับประเทศในแถบยุโรปตะวันออก
จึงเชื่อว่าผู้ผลิตเนื้อไก่ในประเทศแถบยุโรปตะวันออก จะส่งออกเนื้อไก่ไปยังรัสเซียน้อยลง และหันมาส่งออกเนื้อไก่ในประเทศแถบยุโรปซึ่งเป็นตลาดสำคัญของผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทย
“ในปี 2558 แม้ภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังต่างประเทศจะเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณ 20% แต่ก็เป็นเพียงยอดการเติบโตในแง่ของปริมาณการส่งออก แต่ในเรื่องราคาแล้วยังถือว่าไม่ดีเท่าที่ควรจากการถูกกดราคาของคู่ค้าต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตของไทยยังมีข้อได้เปรียบเรื่องการแปรรูปสินค้าที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ แต่สิ่งที่ยังกังวลก็คือ ปัญหาเรื่องการตกค้างของสารเคมีในเนื้อไก่ ที่ผู้ประกอบการบางรายยังไม่เข้มงวดพอ ซึ่งก็อาจทำให้เมื่อคู่ค้าต่างชาติตรวจเจอก็จะส่งผลต่อภาพรวมการส่งออกได้”
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังต่างประเทศในปี 2558 ที่ผ่านมาจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท ถือเป็นยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
นางฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่า ในปี 2559 ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเดินหน้าหาตลาดใหม่ในการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ควรที่จะเดินหน้านโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้จ่ายภายในประเทศ
เช่นเดียวกับการผลักดันให้แบงก์พาณิชย์ลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในส่วนภาคการผลิตเนื้อไก่เพื่อการส่งออก ซึ่งที่ผ่านมา แทบจะไม่ได้รับการเหลียวแล
ส่วนผู้ประกอบการก็ต้องเร่งพัฒนาระบบการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล รวมทั้งการใช้แรงงานให้ถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา เช่น ภาคประมง