พิษณุโลก - รมว.เกษตรฯ ออนทัวร์พิษณุโลกทั้งวัน เจอไล่บี้ถามราคายางพาราตกต่ำ บอกไม่ยืนยันจะต่ำกว่ากิโลฯ ละ 30 บาทหรือไม่ บอกได้แค่ว่า “ไม่อยากเห็น” พร้อมยืนยันวันนี้ราคายางไม่ใช่ 4 โล 100 บาทตามกระแสข่าวแน่ แย้มไต๋รอนายกฯ สั่ง อบจ.-อบต. ผสมยางธรรมชาติ 2 หมื่นตันทำถนน
วันนี้ (7 ม.ค.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ เร่งรัดหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ตามภารกิจช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังประสบภัยแล้ง พร้อมมอบพันธุ์ปลา พันธุ์พืช ฯลฯ แก่เกษตรกรที่ อบต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ท่ามกลางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรจัดบูทโชว์ต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่
โอกาสนี้ ร.อ.อุบล พุทธรักษ์ ประธานสภาเกษตรจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบกระเช้า “กล้วยตากแปรรูป” สินค้าอันเลื่องชื่อเมืองพิษณุโลกให้ด้วย โดย รมว.เกษตรฯ ย้ำภารกิจวันนี้ว่าต้องการให้เกษตรกรทุกคนผ่านวิกฤตช่วงภัยแล้งให้ได้
คณะของ รมว.เกษตรฯ ได้เดินทางต่อไปที่บ้านโคกสว่าง ต.บึงกอก อ.บางกะกำ เพื่อเยี่ยมกลุ่มผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง ก่อนมุ่งหน้าไปที่บึงระมาณ ต.ปลักแรด อ.บางระกำ เพื่อปล่อยปลา พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางไปบ้านตะโม่ อ.บางระกำ เพื่อดูกิจกรรมปรับปรุงบำรุงดิน ลดต้นทุนการผลิต พร้อมกับเข้านมัสการ “หลวงปู่แขก” ที่วัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ ด้วย
จากนั้น พล.อ.ฉัตรชัยพร้อมคณะได้เดินทางต่อไปที่บ้านคลองเมี่ยง ต.ชัยนาม อ.วังทอง ตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ แปลงมะม่วง และพบปะเกษตรกรที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว จากนั้นจึงค่อยเดินทางรับประทานอาหารเย็น ก่อนเดินทางถึงสนามบินพิษณุโลก เพื่อกลับกรุงเทพฯ
พล.อ.ฉัตรชัยเปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินทางมามอบปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น ไก่ ปลา ถั่ว ฯลฯ ให้แก่เกษตรกรผ่านวิกฤตภัยแล้งไปได้ เป็นการเสริมอาชีพต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งใช้เวลาเพียง 2-3 เดือนก็สามารถทำให้เกษตรมีรายได้เพิ่มเติมได้ นอกจากนี้รัฐบาลยังให้สิทธิ์ยืดชำระหนี้ต่างๆ
“รัฐบาลเห็นใจปัญหาของเกษตรกร และได้สั่งการให้ชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เชื่อว่า ฤดูแล้งอาจทอดยาวถึงกรกฏาคม 59 จะสั่งเน้นย้ำให้ดูแลเรื่องน้ำให้เพียงพอ กรมชลประทานต้องพยายามเต็มที่ส่งน้ำถึงมือเกษตรกร แม้จะไม่ได้ทั่วถึงก็ตาม”
กรณีคำถามปัญหาราคายางตกต่ำจนกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยาง รมว.เกษตรฯ บอกว่า ได้มอบเงินปัจจุบันการผลิตเพื่อสร้างความเข้มแข็งทั้งคนกรีด และเจ้าของสวนแล้ว วันนี้มีการประชุมกันที่กระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นผลมาจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นตัวฉุดสำคัญที่กดราคายางพาราลดลงมา คำสั่งซื้อยางธรรมชาติลดลงทันที
“ปัญหาดังกล่าวรัฐบาลทราบดี แนวทางระยะสั้นจึงได้สนับสนุนเงินทุนไปบ้างแล้ว ส่วนจะยันราคาไว้ได้แค่ไหน บ่ายวันนี้คณะกรรมหลายภาคส่วนกำลังพิจารณากัน แต่ระยะยาวนั้นจะดูแลเกษตรกรชาวสวนยางอย่างเต็มที่ แต่เกษตรกรสวนยางพาราก็ต้องเห็นใจรัฐบาลด้วย เพราะปลูกยางพาราอย่างเดียวคงไม่ได้จะรอความหวังราคายางพาราขึ้นคงไม่ได้ เชื่อว่ายังเป็นปัญหาในอนาคตอีก”
ดังนั้น เกษตรกรชาวสวนยางจะต้องทำอาชีพเสริมในแปลงไร่ยางพาราของตัวเอง วันนี้รัฐบาลก็ได้สนับสนุนแก่เกษตรกรแล้ว ปล่อยกู้รายละ 1 แสนบาท เพื่อทำอาชีพเสริม เช่น เลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะ มั่นใจว่า เกษตรกรหลายคนได้ทำแล้ว และมีรายได้ดีกว่า
“ต้องเพิ่มอาชีพในสวนยาง แต่ไม่ใช่เปลี่ยนอาชีพ และเชื่อว่าเป็นแนวทางที่ยั่งยืน”
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังสั่งกระทรวงคมนาคม รับนโยบายนำยางธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ คือ ทำถนน เร็วๆ นี้นายกรัฐมนตรีจะสั่งการให้ อบจ. อบต.ดำเนินการ คือ ผสมยางธรรมชาติจำนวน 2 หมื่นตัน เพื่อดึงปริมาณยางที่ล้นตลาด ฉุดราคายางพาราขึ้น
ส่วนคำถามที่ว่ายืนยันหรือว่าราคายางพาราจะไม่ต่ำกว่า 50 บาท พล.อ.ฉัตรชัยบอกว่า นั่นเป็นข้อเสนอของเกษตรกร แต่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนผู้รับซื้อยาง น้ำยางข้น ยางแผ่น และยางแท่งว่าจะประชุมกันอย่างไร อีกทั้งต้องพิจารณาปัจจัยต่างประเทศ ทั้งอินโดฯและมาเลเชียที่ร่วมมือกันอยู่
ต่อข้อถามที่ว่าจะมีมาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางหรือไม่นั้น รมว.เกษตรฯ บอกเพียงว่า ขอดูก่อน แต่ยืนยัน ราคายางวันนี้ ไม่ใช่ 4 กิโลฯร้อยบาทตามกระแสข่าว ตรวจสอบแล้ว ยางพารากิโลกรัมละ 34 บาท เชื่อว่าไม่ได้ตกมาก คงไม่ถึง 25 บาท
“คณะกรรมฯ จะพยายามพยุงราคายางไม่ตกลงทุกวัน โดยใช้มาตรการต่างๆ ยืนยันว่าไม่อยากเห็นราคายางพาราตกต่ำไปกว่านี้”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ยืนยันหรือไม่ว่า ราคายางจะไม่ต่ำกว่า 30 บาท รมว.เกษตรฯ บอกเพียงว่าไม่อยากให้ต่ำเหมือนทุกวันนี้ ส่วนจะ 30 หรือ ไม่ใช่ 30 บาท หรืออาจจะเป็น 34 หรือ 35 บาทต่อกิโลกรัม ขอให้คณะกรรมการฯ ประชุมกันก่อน แต่ยังไม่มั่นใจว่าราคายางจะเป็นเท่าใด