ศูนย์ข่าวศรีราชา- เปิดอกคุย ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย หนุ่มผู้ปิดทองหลังพระแก้ปัญหาน้ำท่วมพัทยา แต่ไร้คนเหลียวแล เผยยังเดินหน้าทำงานต่อแต่ไม่สามารถจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จ วอนชาวบ้านเข้าใจระบบราชการอาจไม่โดนใจเพราะต้องใช้เวลา โอดมีบางครั้งมีท้อเพราะไม่สามารถทำได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ถอย หวังทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ภาพฝนตกหนัก เมืองพัทยาจมอยู่ใต้น้ำ เป็นภาพที่เห็นเมื่อไหร่ก็มีคำถามตามมากันมากมายว่า เกิดอะไรขึ้นต่อเมืองท่องเที่ยว ที่มีการปกครองรูปแบบพิเศษแห่งนี้ แถมยังเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่นานาชาติแห่แหนกันเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับสายลม แสงแดด หาดทราย ชายทะเล ...
แม้น้ำท่วมในแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถระบายลงสู่ทะเลที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมได้เร็ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเมืองแห่งสีสันแห่งนี้ มีมากมายนานัปการ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ ต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
มูลเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ฝนตกหนักเมื่อไหร่ต้องเห็นพัทยาน้ำท่วมก็มีมาก และเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งสาง เร่งแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วม คือ เรื่องการรุกล้ำลำน้ำ ที่สาธารณะ ซึ่งไม่ค่อยมีใครกล้าจัดการ แต่เขาคนนี้ ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา กลับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่แก้ไขเรื่องนี้ แต่มักไม่ค่อยมีใครรับรู้
ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา หนึ่งเดียวที่นำปัญหารุกล้ำคลองสาธารณะมาแก้ไขได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการแก้ไขปัญหาสิ่งรุกล้ำคลองสาธารณะมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในเมืองพัทยาอย่างเบ็ดเสร็จ แต่รูปแบบรายละเอียด และอุปสรรคในการทำงานยังมีความซับซ้อน และรายละเอียดอ่อนอยู่มาก สิ่งสำคัญที่สุดคือ อยากให้เรามองถึงสาเหตุของปัญหา ซึ่งพบได้ว่าความเจริญเติบโตของธุรกิจต่างๆในเมืองพัทยาส่งผลกระทบให้เกิดอาคารตึกรามบ้านช่องผุดขึ้นมากมาย การรุกล้ำคลองสาธารณะก็เริ่มมาจากตรงนี้ เมื่อสิ่งก่อสร้างมีมากขึ้นแนวคลองสาธารณะก็หายไป
เมื่อเกิดน้ำท่วมขังในเมืองพัทยา ประชาชนก็ต่อว่าเมืองพัทยาเพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อเขาโดยตรง แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่มีใครอยากมาแก้ไข เพราะมีขั้นตอนการทำงานหลายขั้นตอน และด้วยระบบทางราชการ อาจทำให้การดำเนินการแก้ไขล่าช้า ซึ่งอาจมองดูว่าไม่ต่อเนื่อง แต่อยากให้ประชาชนทำความเข้าในในเรื่องนี้ จะให้รวดเร็วได้ดั่งใจคงเป็นเรื่องยาก แต่การทำหน้าที่ของคนที่เกี่ยวข้องไม่เคยมีการหยุดนิ่ง ยอมรับว่าการทำงานอาจมีอารมณ์บ้าง เพราะเราไม่ได้สักแต่ทำอย่างเดียว เราคิดแล้วทำ แต่บางครั้งก็ทำงานไม่ได้ทั้งหมด ต้องศึกษาว่าระบบจะเป็นอย่างไร ความรู้สึก หรือความคิดเห็นของประชาชนจะเป็นอย่างไร ยอมรับว่าบางครั้งก็เหนื่อยเหมือนกัน
ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา บอกอีกว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งจะมาเกิด แต่เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน พื้นที่พัทยาเป็นพื้นที่รับน้ำมาจากฝั่งเทศบาลเมืองหนองปรือ พอเกิดฝนตกหนักน้ำจากฝั่งหนองปรือ มาผสมน้ำจากฝั่งพัทยาก็ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน เพราะน้ำในพัทยาเพิ่มขึ้น การดำเนินการร่วมกันสำหรับสององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นก็มีรายละเอียดการทำงานตามขั้นตอน จะให้แก้ไขเบ็ดเสร็จในเร็ววันนั้น คือ ความคิดของประชาชน แต่ในฐานะที่ทำตรงจุดนี้มาเห็นได้ว่าสุดท้ายทุกอย่างก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งต้องดูนโยบายเบื้องบน แต่ก็จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ชาวบ้านไปก่อน ก่อนระบบราชการจะดำเนินไป ซึ่งเราก็ต้องรอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดฝนตกมีน้ำท่วมในเมืองพัทยากระแสในโลกออนไลน์จะแรงมาก เพราะจะมีการโพสต์ภาพ และนำเสนอข้อมูลในมุมมองของตัวผู้โพสต์ไปต่างๆ นานาจนดูน่ากลัว เรื่องนี้จะส่งผลกระทบทางการท่องเที่ยวโดยทันที เพราะโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และรวดเร็วในการส่งสาร กว่าจะทำความเข้าใจข้อเท็จจริง ภาพก็ปรากฏออกสื่อออนไลน์ไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพลบที่เกิดขึ้น อยากให้มีการนำเสนอด้วยข้อมูลที่ผ่านวิจารณญาณ ต้องช่วยกันสนับสนุนเพื่อหาแนวทางแก้ไข ไม่ใช่เอาแต่จะโจมตีความผิดพลาด
ที่สำคัญคือ การให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่วนตัวแล้วอยากเห็นภาคประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานของภาครัฐได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจะทำให้รับทราบขั้นตอนการทำงาน ตลอดจนเข้าใจรูปแบบ รายละเอียด และรับทราบถึงปัญหา และอุปสรรคของการทำงาน คนส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงปัญหาเพราะไม่มีความเข้าใจ ในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อยากให้มองมุมพื้นๆ อยากให้มองในความเจรญเติบโตของสภาพปัจจุบันด้วย ซึ่งเห็นได้ว่าการทำงานของภาครัฐก็ยังไม่สมบูรณ์ทั้งระบบ การใช้จ่ายงบประมาณก็ต้องจัดลำดับให้ความสำคัญโดยพิจารณาตามความโดดเด่นของปัญหามาแก้ไขเป็นขั้นเป็นตอน
“ในการทำงานนั่นเมืองพัทยาได้พูดคุยหลายทางเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ แต่รายละเอียดส่วนงานบางเรื่องก็ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เราทำได้ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าส่วนการแก้ไขอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องของนโยบายระดับสูง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใข้งบประมาณมหาศาล การทำงานยังคงประสานงานโดยตลอด คนทำงานไม่ได้อยู่เฉย เข้าใจดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดน้ำท่วม แต่ใครล่ะที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ก็มนุษย์เรานี่แหละ มนุษย์เราไม่มีใครที่จะโทษตัวเอง มักหาโทษคนอื่น โทษแต่ภาครัฐ จึงอยากให้ทุกคนที่มีความคิดเห็นมาช่วยนำเสนอหาทางแก้ไขร่วมกัน หวังให้ทุกฝ่ายมาร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง การทำงานอาจมีท้อมีเหนื่อย แต่ทำงานไปแล้วทิ้งไม่ได้ และจะทำต่อไป แม้แก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด แต่ในส่วนที่ทำได้ที่แก้ไขได้ก็จะทำต่อไป” ดร.วีรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
