xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ พะเยาแนะชาวสวนยางพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ปลูกพืชแซมชดเชยราคายางตกต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พะเยา - จังหวัดพะเยาเปิดตัวโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ว่าฯ แนะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ปลูกพืชแซมสร้างรายได้ช่วยแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

วันนี้ (28 ธ.ค. 58) ที่หอประชุมโรงเรียนฝายกวางวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดงานโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง จัดโดยสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพะเยา ร่วมกับสำนักงานเกษตรกรและสหกรณ์จังหวัดพะเยา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดพะเยา เพื่อชี้แนวทางการดำเนินงานโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดพะเยา

ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (เมื่อ 3 พ.ย. 58 และ 15 ธ.ค. 58) ที่เห็นชอบในหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีการจ่ายเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและแรงงานกรีดยางที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคายางตกต่ำ เป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลผลิต และค่าครองชีพแรงงานกรีดยาง ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนเป็นเงิน 1,500 บาท/ไร่ ไม่เกิน 15 ไร่/ครัวเรือน และ 1 ครัวเรือนได้รับ 1 สิทธิ์

จังหวัดพะเยามีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตรปี 2557/58 จำนวน 12,084 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกยาง 141,826 ไร่ ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต้องมีสวนยางที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย มีพื้นที่เปิดกรีดอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป

ขณะนี้มีเกษตรกรที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบสิทธิ์ระดับตำบลแล้ว เข้าร่วมโครงการจำนวน 226 ครัวเรือน พื้นที่ 1,537 ไร่ และเมื่อผ่านการตรวจสอบและพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ในระดับอำเภอแล้วจะมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนในการยื่นขอรับสิทธิ์ในระบบประมวลผลของการยางแห่งประเทศไทยอีกครั้ง จึงจะส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยางเป็นรายบุคคลภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ต่อไป

สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่เหลือ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพะเยาจะดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์ และจ่ายเงินให้ผู้เข้าร่วมโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2559 ต่อไป

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้กล่าวกับเกษตรกรชาวสวนยางให้แปลงวิกฤตเป็นโอกาส โดยทำการปลูกพืชแซมในสวนยางพาราเพื่อเพิ่มรายได้ในขณะที่ยางราคาตกต่ำ โดยได้นำเกษตรกรเข้าศึกษาแนวทางการปลูกกาแฟพันธุ์อะราบิกาในสวนป่าชุมชนของโรงเรียนฝายกวางวิทยาคม ซึ่งให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี สามารถต่อยอดนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟสดที่มีคุณภาพ เปิดเป็นมุมกาแฟและเบเกอรีในโรงเรียนเป็นการฝึกประสบการณ์อาชีพและสร้างรายได้เสริมแก่นักเรียนของโรงเรียนฝายกวางวิทยาคมได้เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น