ยิง รปภ.ดับข้างทางคาดปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับเพื่อนบ้าน

ราชบุรี - จ่อยิง รปภ.โรงงานในอำเภอโพธาราม ขณะเดินทางกลับบ้านดับข้างทาง คาดปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 08.20 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่บริเวณริมถนนสายหลุมดิน-บางโตนด หมู่ 6 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ร.ต.อ.ศุภชัยณกร เปี่ยมลาภ ร้อยเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อนุรักษ์ พรพุทธศรี ผกก.สภ.โพธาราม และ พ.ต.ท.ได้รับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี

ในที่เกิดเหตุพบศพเป็นชายสวมชุดซาฟารี สีดำ สวมรองเท้าหนังสีดำ นอนหงายเสียชีวิตข้างถนน ทราบชื่อต่อมาคือ นายรักเกียรติ สุกร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม ตรวจสอบตามร่างกายพบว่ามีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 4 นัดพบหัวกระสุนปืนขนาด .38 ลูกโม่ ตกอยู่ด้านหลังของศพ จำนวน 1 หัว นอกจากนี้ ยังพบกระเป๋าหนัง และโทรศัพท์ของผู้ตายตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม น.ส.สำรวย ขำวิเศษ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 411 หมู่ 6 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายนั้นทำงานเป็นหัวหน้า รปภ.อยู่ที่โรงแรมสร้างใหม่ยังไม่มีชื่อ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี และหลังออกเวรในช่วงเช้าก็จะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กค 4037 ราชบุรี ที่จอดอยู่ใกล้กับศพกลับมาเส้นทางนี้ทุกวัน และเมื่อช่วงเช้าก็มีคนวิ่งไปบอกว่า น้องชายนั้นล้มอยู่บริเวณข้างถนนก่อนจะถึงบ้านประมาณ 300 เมตร โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงได้รีบมาดูก็พบว่าน้องชายนั้นนอนหงายอยู่กับพื้น

ส่วนที่ด้านหลังนั้นมีเลือดไหล ประกอบกับพบหัวกระสุนปืนตกอยู่ด้วย และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงงานใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุก็บอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด จึงมั่นใจว่าน้องชายนั้นถูกอาวุธปืนยิงแน่ จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถพยาบาลให้มารับไปโรงพยาบาล แต่น้องชายก็มาเสียชีวิตก่อน

ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคน แต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้ตายเกิดมีปากเสียงกับเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ จนถึงขั้นเพื่อนบ้านคนดังกล่าวไปแจ้งความที่ สภ.โพธาราม ว่า ถูกผู้ตายข่มขู่ และตอนเช้าน้องชายก็มาถูกยิงเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตาย และขณะผู้ตายขับรถผ่านหน้าได้เรียกให้จอดเพื่อพูดคุยตกลงบางอย่าง และเมื่อผู้ตายจอดรถ และเดินมาหาคนร้าย พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือพยายามจะถ่ายภาพ จึงถูกคนร้ายจ่อยิงจนเสียชีวิต ทำให้โทรศัพท์สามารถถ่ายภาพได้แค่พื้นถนนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อหารูปพรรณของคนร้ายเพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป