เชียงราย - พบอาคารโรงเรียนหลัก “ครูธวัชชัย” เหยื่อน้ำป่าเชียงรายพังเสียหายด้วย โชคดีก่อนน้ำซัดครูให้ นร.ร่วมครึ่งร้อยย้ายไปอยู่บนตึกอีกหลังชั่วคราว ทำให้ไม่มีเด็กบาดเจ็บ-เสียชีวิต เผยวินาทีน้ำป่าถล่มอาคารพังทันที แม้แต่เสาประตูฟุตบอลก็ไม่มีเหลือ
วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังน้ำป่าทะลักท่วมหลายพื้นที่ของ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่่ผ่านมา นอกจากจะทำให้นายธวัชชัย ดีแป้น รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านใหม่สุขสันต์ (สาขามูเซอ) ต.ตาดควัน เสียชีวิตขณะเดินทางไปสอนหนังสือแล้ว โรงเรียนใหม่สุขสันต์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหลักที่นายธวัชชัยต้องไปประชุมคณะครูเป็นประจำก่อนแยกย้ายไปสอนหนังสือที่โรงเรียนสาขาก็ได้รับความเสียหายด้วย รวมทั้งอาคารบ้านเรือนประชาชน เสาไฟฟ้า รั้วบ้านบริเวณเดียวกัน โดยอาคารเรียนหลังหนึ่งซึ่งสร้างด้วยไม้กึ่งคอนกรีตถูกน้ำป่าที่ไหลจากลำห้วยต๋ำที่เชื่อมต่อกับลำห้วยห้าบาทพัดจนพังราบ
นายดิเรกฤทธิ์ รักษาศิลป์ ครูเวรประจำโรงเรียน กล่าวว่า อาคารเรียนดังกล่าวสร้างมาประมาณ 20 ปีแล้ว และใช้เพื่อการเรียนการสอนมาโดยตลอด ที่ผ่านมาเมื่อมีกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพโรงเรียนก็มักจะถ่ายภาพอาคารหลังนี้ไปประกอบรายงานอยู่เสมอ วันเกิดเหตุน้ำป่ามาเร็วมาก ครูที่อยู่ในโรงเรียน 9 คน และนักเรียนอีกประมาณ 100 คนทำอะไรไม่ได้ ต้องหนีไปอยู่บนที่สูง ส่งผลให้อาคารพัง แต่โชคดีที่นักเรียนไม่ได้อยู่ภายในอาคาร
เมื่ออาคารดังกล่าวที่นักเรียนชั้น ป.2, 3 และ 5 รวมประมาณ 50 คน เคยใช้เรียนเป็นประจำเสียหาย ทางโรงเรียนต้องให้หยุดพักทำการเรียนการสอนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์จนกว่าจะหาสถานที่เรียนให้ลูกศิษย์ได้ และหากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือ เพื่อสร้างอาคารเรียนใหม่ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 เชียงราย
น.ส.อุทัยวรรณ ปันคำ ครูประจำโรงเรียนเดียวกัน กล่าวว่า อาคารเรียนหลังนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ริมฝั่งลำห้วย โดยมีสวนผลไม้และพืชผักกั้นเอาไว้ แต่เนื่องจากน้ำป่ามีมวลน้ำมาก จึงทำให้พังเสียหายมากดังกล่าว โดยช่วงเกิดเหตุฝนได้ตกลงมาอย่างหนักก่อนทำให้ ทางโรงเรียนจึงให้นักเรียนไปอยู่ที่อาคารคอนกรีตหลักของโรงเรียน ก็ถือว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะเราก็สังหรณ์ว่าอาจเกิดน้ำป่าเช่นกัน แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็ตาม ทำให้กระเป๋าหนังสือ อาหารกลางวัน วัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนยังคงมีอยู่ในอาคาร
“พอน้ำป่ามาจึงไม่มีใครอยู่ในอาคารที่ได้พังราบลงเกือบจะทันที ส่วนสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในอาคารก็ลอยละล่องไปตามน้ำจนเต็มสนามกีฬา ทุกคนที่อยู่อาคารใหญ่ก็เห็น แต่ไม่สามารถนำกลับมาได้ จนถูกน้ำพัดหายลับไปหมด แม้แต่เสาประตูฟุตบอลยังโค่นลอยไปติดกับคอสะพานห่างจากโรงเรียนหลายร้อยเมตรด้วย”
นอกจากอาคารเรียนดังกล่าวยังมีอาคารอื่นๆ บริเวณใกล้เคียงเสียหาย สนามฟุตบอลมีแต่ก้อนหินและวัชพืช ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูต่อไป