เชียงราย - เถ้าแก่หอพักย่านมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายนับร้อยคนรวมตัวร้องผู้ว่าฯ ขอตรวจสอบกระแส มรช.จับมือทุนใหญ่ทุ่มงบพัฒนาพื้นที่-สร้างหอพักในมหาวิทยาลัยฯ กว่า 5 พันห้อง ครวญทุกวันนี้ห้องพักรอบมหาวิทยาลัยมีมากกว่าจำนวนนักศึกษาอยู่แล้ว หากสร้างอีกทุนท้องถิ่นเจ๊งแน่
วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย ได้มีบรรดาผู้ประกอบการหอพักย่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ประมาณ 100 คน พากันเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีทาง มรช.จะร่วมกับกลุ่มทุนใหญ่พัฒนาพื้นที่ภายใน มรช.
โดยบางเรื่องเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อกลุ่มทุนท้องถิ่น โดยเฉพาะกระแสข่าวเรื่องการลงทุนด้วยวงเงินสูงถึง 8,900 ล้านบาท และจะมีการสร้างหอพักในมหาวิทยาลัยฯ มากกว่า 5,000 ห้อง
นายณัฐพล รีรักษ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการหอพักบ้านดู่ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ว่า กระแสดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย. 2558 เมื่อทางผู้ประกอบการสอบถามไปยัง มรช.ก็ไม่ได้รับความชัดเจนว่าจะมีจริงหรือไม่ หรือเมื่อสอบถามไปยังเทศบาล ต.บ้านดู่ ก็ได้รับแจ้งว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถสอบถามให้ได้ เพราะมหาวิทยาลัยฯ เป็นนิติบุคคล ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการหอพักหน้า มรช.ไม่มีทางออก ต้องมาร้องต่อทางจังหวัด
นายณัฐพลเปิดเผยว่า ขณะนี้รอบ มรช.มีหอพัก-บ้านเช่า ประมาณ 600 แห่ง รวมราว 24,000 ห้อง และยังมีผู้ที่กำลังลงทุนสร้างใหม่อีก ขณะที่มีนักศึกษาใน มรช.ประมาณ 15,000 คน ดังนั้นการที่มีข่าวเรื่องการที่ มรช.จะลงทุนกับกลุ่มทุนใหญ่เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อกลุ่มทุนท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังมีข่าวเรื่องผู้บริหารจะนำ มรช.ออกนอกระบบ ตั้งเป็นมหาวิทยาลัยมังราย จนทำให้ข้าราชการและประชาชนออกมาคัดค้านครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลมากยิ่งขึ้นไปอีก
“หากข่าวนี้เป็นจริงกลุ่มทุนท้องถิ่นจะล้มกันระนาวแน่ เพราะสู้ทุนใหญ่ไม่ได้”
ต่อมาทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และนายทวี สุทธิถนอม หัวหน้าสำนักงาน จ.เชียงราย ได้เข้ารับเรื่องจากผู้ประกอบการ พร้อมรับปากว่าจะมีการจัดทำเป็นหนังสือนัดหมายไปยัง ผศ.ดร.ทศพล อารีนิจ อธิการบดี มรช.ให้ไปร่วมประชุมชี้แจงข้อมูลกับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวภายใน 1 สัปดาห์นี้ ซึ่งทางนายบุญส่งกำชับไปยังสำนักงาน จ.เชียงรายให้ติดตามเรื่องร้องทุกข์ พร้อมมีการติดต่อประสานงานเพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป