xs
xsm
sm
md
lg

“เหยื่อกาม นอภ.น้ำเกลี้ยง” ผวาหนักเก็บตัวเงียบ ด้านนายอำเภอเข้ากรุงเทพฯ แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศรีสะเกษ - เหยื่อกามนายอำเภอน้ำเกลี้ยง ผวาหนัก ขณะที่ ผบก.ศรีสะเกษ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ด้านปลัดจังหวัดเผยสรุปรายงานผลการสืบข้อเท็จจริงให้อธิบดีกรมการปกครองทราบแล้ว ส่วนนายอำเภอย่องเงียบเก็บของเดินทางไปกรุงเทพฯ แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า จากกรณีที่ น.ส.ม ลูกจ้างเลขานายอำเภอน้ำเกลี้ยงได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.น้ำเกลี้ยง เพื่อดำเนินคดีต่อ ร.ท.ปรินชัย สอนซื่อ นายอำเภอน้ำเกลี้ยง ในข้อหาข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และบุกรุกยามวิกาล โดยนายอำเภอปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน ล่าสุด อธิบดีกรมการปกครองได้สั่งการให้ ร.ท.ปรินชัย ไปช่วยราชการที่กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านทุ่งสว่าง ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ นายอ้าย บัวศรี พ่อของ น.ส.ม เหยื่อกามของนายอำเภอน้ำเกลี้ยง กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ส่งลูกสาวของตนไปอยู่ที่ที่ปลอดภัย โดยมีเพื่อนของลูกสาวไปอยู่ด้วย 3 คน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปพบกับลูกสาวของตนอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากว่าเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากการที่ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายอำเภอน้ำเกลี้ยง ซึ่งขณะนี้ลูกสาวของตนยังมีอาการหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก

พร้อมกล่าวว่า ในช่วงที่ลูกสาวของตนอยู่คนเดียวก็จะมีอาการหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าหากมีเพื่อนอยู่ด้วยก็จะมีอาการผ่อนคลายจากอาการหวาดผวาได้บ้าง ซึ่งตนได้ให้ญาติพี่น้องคอยปลอบขวัญเยียวยาจิตใจให้รู้สึกดีขึ้น ส่วนกรณีการทำงานที่ว่าการ อ.น้ำเกลี้ยงนั้น ตนได้หารือกับญาติพี่น้องแล้วว่าจะให้ น.ส ม ลาออกจากงานเพื่อไปหางานทำที่อื่น ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการลางาน และจะได้ไปลาออกจากงานตามระเบียบต่อไป

นายอ้าย กล่าวด้วยว่า ตนขอยืนยันว่าจะไม่ให้ใครพบกับลูกสาวของตนอย่างเด็ดขาด เพราะว่าไม่ไว้วางใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ดังนั้น โดยมีเพื่อนของลูกสาวทั้งหญิงชาย มาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนเรื่องคดีความนั้นตนขอประกาศยืนยันตรงนี้เลยว่า จะไม่มีการประนีประนอมยอมความกันอย่างเด็ดขาด ตนจะสู้คดีจนถึงที่สุดโดยไม่หวั่นต่ออำนาจอิทธิพลเงินทอง อย่าคิดว่าเห็นพวกตนเป็นคนจนแล้วจะเอาเงินมาให้เพื่อยอมความ ตนจะไม่ยอมอย่างแน่นอน ตนถึงจะจนแต่ก็มีศักดิ์ศรีจะสู้คดีอย่างเต็มที่

ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ที่ สภ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ โดยได้เรียกสำนวนคดีทั้งหมดจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมาเพื่อตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียด และสอบถามความคืบหน้าของคดีนี้ ซึ่ง พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ประสานงานกับ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งได้รายงานให้อธิบดีกรมการปกครองได้รับทราบด้วย

โดยได้กำชับให้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้เสียหาย พยาน และรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด และให้ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวตามลำดับต่อไป ซึ่งจะยังไม่มีการออกหมายจับ เพราะว่าการออกหมายจับจะต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหามีแนวโน้มว่าจะหลบหนี จึงจะออกหมายจับ แต่คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นระดับนายอำเภอ จึงต้องดำเนินคดีอย่างรอบคอบ ซึ่งตนได้ส่งรอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ลงมาช่วยดูแลคดีนี้ ร่วมกับ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง ตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่ และไม่รู้สึกหนักใจต่อคดีนี้แต่อย่างใด ผิดถูกอย่างไรว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น

ทางด้าน นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้กล่าวว่า ตนได้สรุปรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดเสนอให้ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้รับทราบตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รายงานให้ท่านอธิบดีกรมการปกครองได้รับทราบเพื่อโปรดพิจารณาต่อไป โดยนายอำเภอน้ำเกลี้ยง จะต้องไปรายงานตัวเพื่อช่วยราชการที่กรมการปกครอง ตามคำสั่งของท่านอธิบดีกรมการปกครอง ส่วนเรื่องการสอบสวนทางวินัยก็จะเป็นหน้าที่ของกรมการปกครองดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อไป

ด้านนายปรีชา ไกรษี กำนันตำบลละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.น้ำเกลี้ยง กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุที่นายอำเภอน้ำเกลี้ยงจะเข้าไปที่บ้านของผู้เสียหายนั้น ตนได้เตือนแล้วว่ายังไม่ควรเข้าไป เนื่องจากว่าเหตุการณ์กำลังร้อนระอุอยู่ แต่ว่านายอำเภอน้ำเกลี้ยง ต้องการที่เข้าไปเคลียร์เพื่อรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และต้องการที่จะประนีประนอมยอมความ และได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายในเวลากลางคืน ซึ่งขณะนั้นมีญาติพี่น้องของผู้เสียหายอยู่หลายคน ซึ่งเมื่อนายอำเภอน้ำเกลี้ยง เข้าไปในบ้านจึงเกิดความวุ่นวายขึ้น ตนได้ตามไปด้วยเพื่อเฝ้าดูความสงบเรียบร้อย ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย โดยไม่ได้เข้าข้างใคร เนื่องจากฝ่ายผู้เสียหายคือญาติพี่น้อง และลูกบ้านของตน ส่วนอีกฝ่ายเป็นผู้บังคับบัญชา ตนจึงอยากให้มีการประนีประนอมกันเพื่อความปรองดองในอำเภอน้ำเกลี้ยง แต่ว่าขณะนี้ไม่สามารถที่จะประนีประนอมกันได้แล้ว ก็จะต้องว่ากันไปตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ที่บ้านพักนายอำเภอน้ำเกลี้ยง ปรากฏว่า ขณะนี้ได้ปิดสนิท ทราบจากเจ้าหน้าที่อำเภอน้ำเกลี้ยงคนหนึ่งว่า นายอำเภอน้ำเกลี้ยง ได้เก็บข้าวของส่วนตัวเดินทางไปยังกรุงเทพฯ แล้ว โดยมี อส. จำนวน 3 นายขับรถไปส่ มีนายอำเภอน้ำเกลี้ยง เดินทางไปด้วย ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันนี้ เพื่อที่จะเข้าไปรายงานตัวที่กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 21 ธ.ค.58 ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น