อึ้ง! เด็กประถมสุโขทัยฝีมือสุดเจ๋ง ถักกระเป๋าขายตามแผน “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”

สุโขทัย - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 ติดตามประเมินผล “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” พบ 177 โรงเรียนขับเคลื่อนนโยบายเป็นอย่างดีสามารถ “ทำได้ ขายเป็น” นอกจากได้ความรู้แล้วยังมีรายได้ด้วย

นายมานพ ษมาวิมล ผอ.สพป.สุโขทัย เขต 2 เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศนโยบาย “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยให้โรงเรียนทั่วประเทศปรับลดเวลาให้เรียนในชั้นเรียนถึงเวลา 14.00 น. ของแต่ละวัน จากนั้นให้ปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นการพัฒนานักเรียนในด้านอื่นๆ เริ่มต้นในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558

สพป.สุโขทัย เขต 2 จึงให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายนี้ โดยดำเนินการอย่างเป็นระบบ คือ พิจารณาคัดเลือกโรงเรียนในสังกัดตามแนวทางที่ สพฐ.กำหนด สอดคล้องตามเป้าหมายโรงเรียนนำร่องร้อยละ 10 ของโรงเรียน ทั้งหมด 177 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลประจำอำเภอ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา และโรงเรียนขนาดเล็ก รวม 18 โรงเรียน

จากนั้นจัดประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจการบริหารจัดการเรื่องการลดเวลาเรียน และเครื่องมือต่างๆ ให้แก่สถานศึกษาได้นำไปเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติ และร่วมวางแผนถึงตารางกิจกรรมการเรียนการสอน ให้ครูนำไปประยุกต์ใช้ปรับลดเวลาเรียนวิชาการในชั้นเรียน และให้โรงเรียนจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กให้เหมาะสมตามวัย ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนอย่างมีความสุข

และนิเทศก์ติดตามประเมินผลการดำเนินงานโดยคณะ Smart Trainer สพป.สุโขทัย เขต 2 รวบรวมข้อมูล สรุปผล และรายงานผลในภาพรวมของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทางเว็บไซต์ทุกสัปดาห์ ตามแนวทางและระยะเวลาที่ สพฐ.กำหนด

ผอ.สพป.สุโขทัย เขต 2 กล่าวว่า จากผลดำเนินการที่ผ่านมาพบว่าโรงเรียนนำร่องทุกแห่งในสังกัดได้ปรับลดเวลาเรียนในช่วงเช้าถึงเวลาประมาณ 14.00 น. นักเรียนได้เรียนวิชาการใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลังจากนั้นเป็นการทำกิจกรรมที่เน้นปฏิบัติ และบูรณาการตามแนวทางเบื้องต้นที่ สพฐ.ได้กำหนด คือ

“กิจกรรมเสริมสร้างทักษะ” ที่เน้นให้เด็กทำกิจกรรมนอกห้องเรียน โดยกิจกรรมจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ในช่วงเช้า เพื่อให้เด็กมีทักษะและลงมือปฏิบัติจริง เช่น การทำโครงงาน การวาดรูป เล่นรำกลองยาว และ “กิจกรรมเสรี” ให้โรงเรียนจัดตามความเหมาะสมและความพร้อม เช่น ชมรมจิตอาสา ชมรมกีฬา

รวมทั้ง “กิจกรรมสอนอาชีพ” ซึ่งได้สำรวจความต้องการของนักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนชักชวนผู้ปกครอง หรือภูมิปัญญาชาวบ้านเข้ามาร่วมให้ความรู้พร้อมสอนอาชีพแก่นักเรียน และกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะชีวิตด้วย เช่น

โรงเรียนบ้านสันติสุขได้จัดกิจกรรม “ถักทอเส้นไหมสไตล์สันติสุข” ฝึกทักษะการถักกระเป๋าอย่างหลากหลาย ทำให้นักเรียนมีความสุขจากการทำงาน “ทำได้ ขายเป็น” แฝงด้วยการฝึกสมาธิ ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม ซึ่งมีผู้สนใจขอซื้อกระเป๋าที่นักเรียนถัก ทำให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียนไปด้วยในตัว