xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนากุ้งกาฬสินธุ์ลงทุนเพิ่มเจาะบาดาลสู้แล้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด ตัดสินใจเจาะน้ำบาดาล ให้กับพื้นที่นากุ้งของตนเอง เพื่อใช้ปรับเปลี่ยนสภาพน้ำให้เกิดความเหมาะสม สู้กับภัยแล้ง
กาฬสินธุ์ - ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด ตัดสินใจเจาะน้ำบาดาลให้นากุ้งของตนเอง ใช้ปรับเปลี่ยนสภาพน้ำสู้กับภัยแล้ง

วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานว่า จากการติดตามปัญหาการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจัดเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามน้ำจืดขนาดใหญ่ของภาคอีสาน แต่กำลังประสบปัญหาขาดทุนทำให้เกษตรกรต้องเลิกกิจการ ซึ่งมีแนวโน้มความเสียหายหลายร้อยล้านบาท

ล่าสุด นายบรรทม ยานสิทธิ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งบ้านโปร่งแค ต.บัวบาน ได้ตัดสินใจเจาะน้ำบาดาลเพื่อสูบเข้าพื้นที่นากุ้งของตนเอง หลังเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง ประกอบกับปัญหาการจ่ายน้ำของเขื่อนลำปาว โดยการเจาะบาดาลครั้งนี้ต้องลงทุนมากถึง 30,000 บาท แต่ได้ให้ผลที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหากุ้งน็อกตายที่เกิดจากสภาพของน้ำ

นายบรรทมระบุว่า วิธีเลี้ยงกุ้งด้วยน้ำบาดาลต้องเพิ่มความใส่ใจมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการสังเกตสภาพอาการของลูกกุ้ง ที่จำเป็นต้องเพิ่มความเป็นกรดเป็นด่างในน้ำ แต่ทั่วไปก็ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคของการอนุบาลกุ้ง ที่จะต้องเปลี่ยนน้ำสะอาดในทุกสองถึงสามวัน ปัจจุบันผลที่ออกมาก็ทำให้ลูกกุ้งโตตัวใส ถึงแม้จะต้องเพิ่มต้นทุน

สำหรับกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ก็ยังคงเป็นที่นิยมของตลาดในทุกภูมิภาค เนื่องจากตัวแน่น เนื้อแข็ง และตัวใหญ่ ที่ราคาจำหน่ายปากบ่อขณะนี้มีราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท ซึ่งคาดว่าในช่วงปีใหม่จะยังคงทำตลาดเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ถึงแม้จะมีเกษตรกรหันมาลงทุน แต่ก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องเลิกกิจการเพราะปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งแต่เดิมในปี 2553 พื้นที่อำเภอยางตลาด เฉพาะตำบลบัวบาน มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในทุกครัวเรือนทำให้มีเงินสะพัดมากกว่า 1,000 ล้านบาทในแต่ละปี

แต่หลังจากเกิดปัญหาความแห้งแล้ง ทำให้เม็ดเงินดังกล่าวหายไปกว่า 300 ล้านบาท จากจำนวนผู้ที่เลิกกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งกว่าหนึ่งพันราย





กำลังโหลดความคิดเห็น