เชียงราย - ชมรมคนรักในหลวงเมืองพ่อขุนฯ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ รมว.ต่างประเทศ ประท้วงทูตสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในไทย วิจารณ์ ม.112 จี้ตอบโต้ทางการทูตปกป้องศักดิ์ศรี-อธิปไตยชาติ พบ “พ่อ-แม่ครูจูหลิง ปงกันมูล” ร่วมขบวนด้วย
วันนี้ (30 พ.ย.) นายกนก วิศวกุล ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.เชียงราย พร้อมสมาชิกชมรมฯ ประมาณ 100 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันยื่นหนังสือต่อนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ห้องธรรมลังกา ศาลากลาง จ.เชียงราย
เพื่อประท้วงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย คือ นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ ที่ได้กล่าวในการเสวนาเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ วิจารณ์กฎหมาย ป.อาญา ม.112 ของประเทศไทย โดยขอให้มีการตอบโต้ทางการทูต เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ
นายกนกกล่าวว่า ชมรมจัดตั้งมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ ปัจจุบันมีสมาชิกที่ผ่านการอบรมและรับเสื้อตราสัญลักษณ์ชมรมไปแล้วประมาณ 6,000 คน และยังเหลืออีกกว่า 8,000 คนที่กำลังรอจะเข้ารับการอบรมตามกิจกรรมต่างๆ ของชมรมฯ อยู่
“ที่ผ่านมาเรามีการจัดกิจกรรมเงียบๆ เพื่อร่วมเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงไม่บ่อยครั้งนักที่ทางชมรมจะเคลื่อนไหวใดๆ แต่ครั้งนี้ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยกล่าวข้อความที่รุนแรง เป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยมากเกินไป จึงต้องออกมาเคลื่อนไหว”
นายกนกยังได้เป็นตัวแทนชมรมฯ อ่านแถลงการณ์มีเนื้อหาว่า “การที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้กล่าวถึง ป.อาญา ม.112 รวมไปถึงจะสนับสนุนบุคคล หรือองค์กรอิสระที่มีศักยภาพ ค้นคว้า และรายงานในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมราชานุภาพของไทย โดยไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายใดๆ นั้น
นายกลินมีตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูต แต่ออกมากล่าวในที่สาธารณะ วิจารณ์กฎหมายสำคัญของไทย ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ยิ่งกว่านั้นยังมีลักษณะยุยง ผิดมารยาททางการทูต แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีกฎหมายคุ้มครองประธานาธิบดีเช่นกัน โดยมีตัวอย่างเมื่อปี 2553 มีนายสเปนเซอร์ ชาวเมืองหลุยส์วิลล์ มลรัฐเคนทักกี ถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินจำคุกนานถึง 33 เดือน เพราะการเขียนบทกวีพาดพิงถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จึงให้นายกลินกลับไปดูกฎหมายในประเทศของตนก่อนวิจารณ์ประเทศไทย”
ทั้งนี้ พบว่านายสุน และนางคำมี ปงกันมูล บิดา-มารดาของครูจูหลิง ปงกันมูล ที่เสียชีวิตจากการอาสาสมัครไปทำงานเป็นครูสอนหนังสือที่ จ.นราธิวาส ได้ร่วมยื่นหนังสือเพื่อประท้วงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยครั้งนี้ด้วย
นายสุน และนางคำมี ระบุทำนองเดียวกันว่า ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมมาประมาณ 1 ปีแล้ว เพราะรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงไม่สบายใจที่มีคนออกมาพูดพาดพิงถึงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไปด้วย