กาฬสินธุ์ - ชลประทานกาฬสินธุ์ออกมาระบุเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้งบนพื้นที่นอกเขตชลประทานคาดว่าในปีนี้อีก 2 เดือนข้างหน้าจะเกิดปัญหาความแห้งแล้งรุนแรง เตือนให้ประชาชนกักเก็บน้ำไว้ใช้ ขณะที่เขื่อนลำปาวเหลือปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 45 เหลือใช้เพียงการอุปโภคบริโภค
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานว่า จากการติดตามปัญหาภัยแล้งพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ล่าสุด เขื่อนลำปาว เหลือปริมาณน้ำอยู่ที่ 946 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งให้ลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังและการทำประมงในทุกรูปแบบเพื่อป้องกันความเสียหาย เพราะเชื่อว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง
ด้านนายอนันต์ศักดิ์ แย้มชื่น ผู้อำนวยการชลประทานกาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากในพื้นที่เขตชลประทานจังหวัด อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 17 แห่ง และอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริฯ อีก 1 แห่ง น้ำผิวดินเหลือไม่ถึงร้อยละ 45 สามารถใช้น้ำได้เพียง 44 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ระบุได้ว่าภัยแล้งในปีนี้จะก่อปัญหาในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพราะความจำเป็นที่เกษตรกรต้องใช้น้ำเพื่อทำการเกษตร จึงขอแนะนำให้หันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาขณะนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้เร่งผลักดันโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ได้แนะนำให้ประชาชนหันมาสนใจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำแบบบูรณาการ มีการเชื่อมต่อพื้นที่ชลประทานหรือการทำความสะอาดซ่อมแซมคูคลอง
ขณะที่หลายหน่วยงานได้เร่งสำรวจจัดหาแหล่งน้ำ โดยเฉพาะโครงการน้ำบาดาล ซึ่งคาดว่าหากผ่านการประมูลอย่างรวดเร็วจะสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งต่อไป