ชาว อ.นามนยังลำบาก นาข้าวแห้งผากแม้ฝนตกต่อเนื่อง

กาฬสินธุ์ - ฝนตกต่อเนื่อง แต่ข้าวนาปี อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ยังต้องเผชิญภัยแล้ง เผยนายังอยู่ในสภาพดินแข็ง ต้องใช้ไม้เจาะดินปลูกข้าว ชี้เป็นความหวังสุดท้ายของชาว อ.นามนต่อการทำนาปีเที่ยวนี้

หลังจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำและร่องมรสุมที่พาดผ่านในระยะนี้ ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั่วทั้งภาค โดยพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวมากขึ้น ปัจจุบันมีน้ำ 494 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่าง 1,890 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 25% แต่พื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ยังประสบปัญหาภัยแล้ง พื้นนาแห้งแล้ง ชาวนาประสบความยากลำบากในการทำข้าวนาปี

นายสุวรรณ มาตจรุง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 11 บ้านนามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่นาของ อ.นามนอยู่นอกเขตชลประทาน ต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ปีนี้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ช่วงต้นฤดูฝนที่ผ่านมาตนและเพื่อนชาวนาจึงทำนาแบบนาหว่านเพื่อรอฝนมาหล่อเลี้ยงให้ต้นข้าวงอก แต่ก็ผิดคาด เพราะไม่มีฝนตกลงมา ทำให้ต้นข้าวงอกไม่ดี มีวัชพืชขึ้นปกคลุมดินหนาแน่น

ตนมีที่นา 8 ไร่ หว่านแห้งไปแล้ว 6 ไร่ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลผลิตหรือไม่ เพราะฝนแล้งเหลือเกิน หนักสุดในรอบ 20 ปีก็ว่าได้ จึงแบ่งไว้ 2 ไร่เพื่อปักดำซึ่งต้นกล้าที่นำมาปักดำไปขอกับชาวนารายอื่นที่เพาะปลูกใกล้แหล่งน้ำแล้วถอนมาปักดำ แต่ก็ดำนาได้ยากลำบาก เนื่องจากเป็นดินทราย ไม่มีน้ำขัง แม้จะมีฝนตกลงมาบ้างแต่ก็ตกเพียงปรอยๆ

จะปักดำตามปกติไม่ได้เพราะดินแข็ง ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย โดยตัดไม้ขนาดเหมาะมือมาตัดส่วนปลายข้างหนึ่งให้แหลมสำหรับเจาะหรือกระทุ้งแปลงนาให้เป็นรู เพื่อให้เป็นหลุมสำหรับปักดำต้นข้าว การทำนาแบบนี้เป็นความหวังครั้งสุดท้ายของชาวนานอกเขตชลประทาน เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงปลายฤดูฝนแล้ว หากไม่ทำอย่างนี้ก็คงหมดโอกาสทำนาเอาข้าวไว้กิน