ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กองสลากลงพื้นที่ขอนแก่นรับฟังความเห็นผู้ค้าสลากฯ และปัญหา ย้ำคุมเข้มไม่ให้ขายเกินราคา 80 บาท จับได้ห้ามขายตลอดชีวิต
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ห้องประชุมดอกคูน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล และผู้พิการที่มาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ประมาณ 60 คน
โดยในห้องประชุมตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ได้เสนอข้อมูลโดยสรุปว่า ไม่ต้องการให้พิมพ์สลากฯ เพิ่มขึ้นเพราะจะมีความเสี่ยงทำให้ขายสลากฯ ไม่ได้ แต่กองสลากต้องมีการปรับกลไกให้มีการพิมพ์เพิ่มขึ้นไปทีละนิด โดยบอกสังคมให้รับทราบด้วยในราคาคู่ละ 80 บาท ตามที่รัฐบาลกำหนดราคาไว้ที่สลากฯ และยังพบว่าตัวแทนจำหน่ายสลากฯ หลายคนยังเดือดร้อนเพราะยังพึ่งพายี่ปั๊ว
จึงต้องการให้พิมพ์สลากฯ เพิ่มขึ้นและสามารถได้สลากฯ มาขายได้ง่ายกว่าเข้าไปสั่งจองที่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมียอดของตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ใน จ.ขอนแก่นที่จองจากธนาคารกรุงไทยประมาณ 2 พันคนที่ต้องการได้สลากฯ ง่ายขึ้นตามราคาที่กำหนดไว้แม้ว่าจะกำหนดราคาให้ขายคู่ละ 80 บาทก็ตาม ตอนนี้ได้มีผู้ไปจองซื้อสลากฯ จากธนาคารกรุงไทยคนละ 5 เล่ม ได้กำไรใบละ 9 บาท นำมาขายให้ร้านจำหน่ายสลากฯ รายใหญ่ในขอนแก่นไม่น้อยกว่า 20 ราย โดยให้กำไรเหลือใบละ 4-5 บาท
หลังจากนั้นกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ร่วมกันลงตรวจแผงจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแหล่งใหญ่ที่สุดของ จ.ขอนแก่น คือ บ้านเลขที่ 109-111 ถ.หน้าเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งมีสลากกินแบ่งรัฐบาลวางขายไม่น้อยกว่า 100 เล่ม พร้อมกับมีการซื้อรางวัลสลากฯ หักร้อยละ 2 บาท บนแผงขายสลากฯ จะเขียนว่า “คู่ละ 80 บาท” และยังมีร้านใหญ่ที่ถนนกลางเมือง ที่มีแผงขายสลากฯ อยู่หน้าร้านมีสลากฯ วางขายไม่น้อยกว่า 50 เล่ม
จากนั้นคณะกรรมการได้พบกับผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่เดินเร่ขายทั่วไปอยู่ในเมืองขอนแก่น และประชาชนที่ซื้อสลากฯ เพื่อรับฟังปัญหา และความต้องการมาสรุปแก้ปัญหาต่อไป เพื่อไม่ให้สลากฯ ขายเกินราคาคู่ละ 80 บาท และสมควรที่จะพิมพ์สลากฯ เพิ่มเติมหรือไม่
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ ได้โควตาสลากฯ ค่อนข้างมาก เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานที่ต้องการดูแลตัวแทนจำหน่าย และประชาชน หลายจังหวัดที่ผ่านมาพบว่าผู้ค้าสลากฯ ยังไม่สามารถได้สลากฯ ตามที่ต้องการ แม้ว่าพิมพ์ออกมา 50 ล้านฉบับคู่ก็ตาม
จึงเป็นเหตุให้เข้าสู่ระบบธนาคารของผู้ขายที่มีโควตาสูงสุดไม่เกิน 50 เล่ม/คน จึงพบว่าคนจองสลากฯ จองมากกว่าสลากฯ ที่กองสลากมีอยู่ และสลากฯ มีเป็นจำนวนน้อยกว่าที่ผู้ขายต้องการนำสลากฯ ไปขาย
จึงได้ลดโควตาจองเหลือ 15 เล่ม/คน และลดลงมาครั้งที่สามเหลือ 5 เล่ม/คน แต่มีคนลงทะเบียนที่ต้องการเป็นตัวแทนขายสลากถึง 1.1 แสนคน แต่คนรับสลากฯ ได้เพียง 4 หมื่นคน ที่เหลือมากกว่า 7 หมื่นคนที่ยังไม่ได้รับสลากฯ ทำให้ต้องหาทางแก้ไขให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ และผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ไม่ได้รับความเสี่ยงมากเกินไป
ผศ.ดร.ธนวรรธน์กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ที่บอกว่า ขายสลากฯ คู่ละ 80 บาทตามที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้ว แต่อยากได้สลากฯ จำนวน 10 เล่ม/คน และสามารถเข้าไปซื้อสลากฯ ได้ทุกงวด ไม่ว่าจะเป็นระบบธนาคารหรือในระบบโควตา และขอให้กองสลากพิจารณาพิมพ์ตามความเหมาะสมในแต่ละงวด พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการแบบเฉียบขาดกรณีที่มีตัวแทนจำหน่ายขายเกินราคาให้เข้มข้นมากที่สุด และตัดสิทธิ์บุคคลนั้นไม่ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ส่วนหนึ่งบอกว่า หลังจากที่รัฐบาลกำหนดให้ขายสลากฯ ได้ในราคาไม่เกิน 80 บาท โดยตัวแทนกลุ่มผู้ค้าสลากฯ ส่วนใหญ่ที่ทำเป็นอาชีพได้รับมาจำหน่ายในราคาฉบับละ 70.40 บาท และได้โควตาเพียงคนละ 5 เล่มเท่านั้น ไม่เพียงพอในเรื่องผลกำไรสำหรับมาเลี้ยงชีพ เพราะแต่ละงวดจะได้กำไรเพียง 4,800 บาท ยังไม่หักค่าเช่าร้าน ค่าพนักงานลูกจ้าง ค่าสลากฯ ที่เหลือขายไม่หมด งวดหนึ่งได้กำไรน้อยกว่าทำงานค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ต้องไปหาซื้อสลากฯ จากยี่ปั๊วมาขายเพิ่ม ราคาที่ยี่ปั๊วขายสูงถึงใบละ 77-78 บาท ซึ่งก็ต้องยอมนำมาขายเพิ่มรายได้เล็กน้อย
ตัวแทนผู้ค้าสลากฯ กล่าวอีกว่า ต้องการให้ทางกองสลากเพิ่มโควตาสลากฯ ให้อย่างน้อย 10 เล่มเท่าเดิม หรือให้ตั้งราคาขายปลีกใหม่ในราคา 90-100 บาท ที่จะทำให้ผู้ค้าสลากฯ อยู่ได้ หรือหากได้โควตาเพิ่ม หรือเปิดเสรีให้ผู้ค้าทั้งรายย่อยรายใหญ่ สามารถซื้อสลากฯ ไปจำหน่ายได้ตามต้องการ เพราะทุกคนค้าสลากฯ เป็นอาชีพมานาน เรื่องเงินสดไปวางซื้อสลากฯ ก็คงจะไม่มีปัญหา เพราะเราพร้อม หากทางกองสลากพิจารณาให้มีการเปิดเสรีค้าสลากฯ ไม่ต้องผ่านยี่ปั๊วเหมือนในขณะนี้