บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ควบคุมตัวหนุ่มป่วยทางจิตไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุวางเพลิงเผาไร่อ้อย ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ และชกต่อยทะเลาะวิวาทวันเดียว 3 พื้นที่ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา ทั้งวางเพลิงเผาทรัพย์, ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ และเสพยาเสพติด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (24 พ.ย.) ร.ต.ท.ฤกษ์ วิเชียร ร้อยเวร สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก ได้ควบคุมตัว นายสุนทรา จาริยะมา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 5 บ.หนองแสง ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังก่อเหตุวางเพลิงไร่อ้อยของชาวบ้านในพื้นที่ ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ แล้วไปก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ที่บ้านละกอ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และก่อเหตุชกต่อยทะเลาะวิวาทในพื้นที่ ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ โดยมีตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
จุดแรกที่บริเวณไร่อ้อยของชาวบ้าน ริมถนนทางหลวงหมายเลข 219 สายบุรีรัมย์-สตึก บ้านโนนขวาง ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พบร่องรอยไร่อ้อยถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายบางส่วน
จุดที่สอง บริเวณหน้าร้านขายอุปกรณ์และสินค้าการเกษตร ริมถนนทางหลวงหมายเลข 219 สายบุรีรัมย์-สตึก บ้านละกอ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจุดแรกประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ นายสุนทราได้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของนายจำเนียร รมหา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 บ.โนนขวาง ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 2294 อุบลราชธานี โดยมีภรรยานั่งซ้อนมาด้วย เพื่อมาซื้อปุ๋ยไปใส่นาข้าว ได้ถูกนายสุนทรายืนขวางหน้ารถเดินเข้ามาขู่พร้อมชูกำปั้นจะชกต่อยให้เอารถจักรยานยนต์มา ด้วยความกลัวทำให้นายจำเนียร และภรรยา ทิ้งรถจักรยานยนต์ลงแล้ววิ่งหนีเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์และสินค้าการเกษตรที่อยู่ใกล้เคียง
หลังจากนายสุนทราชิงเอารถจักรยานยนต์ของนายจำเนียรไปแล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้านที่ ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อไปถึงหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลแคนดง นายสุนทราได้เจอคู่อริเก่า และเกิดการทะเลาะวิวาทชกต่อยกันขึ้น จนถูกตำรวจ สภ.แคนดงจับกุม พร้อมสอบสวนว่าได้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์มาจากพื้นที่ สภ.สตึก จึงควบคุมตัว พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ส่ง สภ.สตึก ดำเนินคดี
จากการสอบสวนของตำรวจ สภ.สตึก ทราบว่า นายสุนทรา ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ แล้วสร้างความวุ่นวาย จนรุ่งเช้าตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้นำตัวมาส่งที่ปากทางถนนเข้าหมู่บ้านโนนขวาง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ จากนั้นก็เดินมาเรื่อยตามริมถนนทางหลวงหมายเลข 219 สายบุรีรัมย์-สตึก จนมาถึงไร่อ้อยข้างทางที่มีป้ายติดประกาศ เกิดไม่พอใจข้อความที่อยู่บนป้ายจึงลงไปพร้อมกับเห็นไฟแช็กหล่นอยู่ จึงหยิบไฟแช็กไปจุดไฟเผาไร่อ้อย หวังให้ไหม้ป้ายข้อความที่ตัวเองไม่พอใจด้วย
หลังก่อเหตุจุดไฟเผาไร่อ้อยแล้ว นายสุนทราก็เดินไปเรื่อยๆ ริมถนน พร้อมกับโบกรถ แต่ไม่มีใครจอดรับ จนกระทั่งเดินมาไกลกว่า 1 กิโลเมตร ก็พบกับนายจำเนียรกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับภรรยา จึงยืนขวางกางแขนให้จอดรถ พร้อมกับขู่จะทำร้ายให้เอารถมายืมหน่อยจะกลับบ้าน พอนายสุนทราชิงได้รถจักยานยนต์ก็ขี่กลับบ้านที่ อ.แคนดง ไปเจอคู่อริเก่าเกิดชกต่อยกัน จนถูกตำรวจ สภ.แคนดงจับกุม และทราบว่าได้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์มาจากพื้นที่ อ.สตึก จึงแจ้งตำรวจ สภ.สตึก รับตัวมาดำเนินคดี โดยนายสุนทราได้รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง และจากการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์, ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ และเสพยาเสพติด” พร้อมควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่จากการสืบประวัติจากญาติ พบว่านายสุนทราเป็นผู้ป่วยมีอาการทางจิต เคยเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลจิตเวช และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ มาแล้ว 2 ปี แต่ระยะหลังนายสุนทราไม่ยอมกินยาตามกำหนด และมักจะหนีออกจากบ้านไปเที่ยวเป็นประจำ