นราธิวาส - คนร้ายบุกลอบวางเพลิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านใน อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เสียหายทั้งคัน โชคดีช่วยกันดับเพลิงได้ทันก่อนลามติดบ้านพัก คาดกลุ่มผู่ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์
วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุวโรจน์ ลุนหวิทยานนท์ ผกก.สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้ง จ.ส.อ.กฤษฎา แก้วประเสริฐ รอง ผบ.ร้อย ทพ.4814 กรมทหารพรานที่ 48 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รุดเดินทางไปยังบ้าน นายมาหามะยารอปี สะนิ อายุ 55 ปี เลขที่ 197 ม.1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดงดำ ทะเบียน ขกษ 207 นราธิวาส ที่จอดอยู่ภายในโรงรถใต้ถุนของบ้านพัก ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันเดียวกันนี้
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบคนร้ายได้ใช้ยางในของรถจักรยานยนต์มาวางพาดไว้ที่บริเวณเบาะนั่งแล้วจุดไฟเผา ซึ่งยังมีซากชิ้นส่วนของเส้นลวดยางนอกของรถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่งที่วางพาดอยู่บนเบาะ แถมบริเวณไม้พื้นด้านบนของบ้านพักยังมีร่องรอยถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน นายมาหามะยารอปี เจ้าของบ้านทราบว่า ในระหว่างที่ตน และสมาชิกในครอบครัวกำลังนอนหลับอยู่บนบ้านพัก จู่ๆ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ตะโกนบอกว่าเกิดไฟไหม้รถจักรยานยนต์จอดอยู่ในโรงรถใต้ถุนของบ้านพัก ตนจึงได้ลุกขึ้น และร่วมกับชาวบ้านช่วยกันดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้รถจักรยานยนต์ โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที เพลิงจึงได้สงบลง และในช่วงเช้าจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุดังกล่าว โดยเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร คนร้ายจึงได้บุกมาวางเพลิงรถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งตลอดชีวิตที่อาศัยอยู่ก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง และบาดหมางกับผู้ใดเลย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันขึ้นในพื้นที่ โดยเป้าหมายที่คนร้ายเลือกบ้านของนายมาหามะยารอปี ในครั้งนี้ เนื่องจากบ้านของนายมาหามะยารอปี ไม่มีการสร้างประตูรั้วรอบขอบชิด คนร้ายจึงอาศัยความมืดบุกมาลอบวางเพลิงได้สะดวก โดยมุ่งที่จะลอบวางเพลิงรถจักรยานยนต์ เพื่อให้ไฟลุกลามกินบ้านพัก แต่โชคดีชาวบ้านเห็นจึงช่วยกันดับไฟเอาไว้ได้