ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านบึงนคร และห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหินกว่า 200 คน รวมตัวขอความเป็นธรรมหน้า สภ.บ้านหนองพลับ หลังตำรวจจับกุมชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไทยพลัดถิ่น 3 ราย ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.คนต่างด้าว นายอำเภอหัวหิน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมใช้ตำแหน่งขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะที่ตำรวจยอมรับเกิดความเข้าใจผิด พร้อมรับผิดชอบเยียวยา และชดใช้ค่าเสียหาย
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ สภ.หนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านกว่า 200 คน จากตำบลบึงนคร และห้วยสัตว์ใหญ่ ได้รวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองพลับ เข้าจับกุมชาวบ้าน 3 ราย ซึ่งเป็นชาวไทยพลัดถิ่น ซึ่งในบัตรประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีชมพู) ที่กลางไร่สับปะรด ที่บ้านแพรกตะคร้อ ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหินหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีบัตรอนุญาตให้ทำงานของคนต่างด้าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การทำงานของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2551 และได้ทำการฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 ไปที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยชาวบ้านเห็นว่า ชาวบ้านที่ถูกจับกุมทั้ง 3 ราย ไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นชาวไทยพลัดถิ่นที่มีบัตรประจำตัวประชาชน แต่ยังไม่ได้รับสัญชาติตามกฎหมาย ไม่ใช่แรงงานต่างด้าว
ต่อมา นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน ซึ่งได้รับรายงานเหตุการณ์ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อหาข้อยุติ และทำความเข้าใจระหว่างชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองพลับ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เดินทางมาร่วมประชุมเพื่อหายุติความขัดแย้งดังกล่าวไม่ให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต ประกอบด้วย พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.เอกธฤต เรืองเดชา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บ้านหนองพลับ นายศึกฤทธิ์ เต็มฟอม นายก อบต.บึงนคร นายก อบต.หินเหล็กไฟ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 ชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ชุดประสานงานพื้นที่หัวหิน ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์
นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องการจับกุมชาวบ้าน 3 รายตั้งแต่วานนี้ และได้ทำการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 3 ราย เป็นชาวบ้านตำบลบึงนคร ซึ่งมีบัตรประชาชนสีชมพู หรือบัตรประชาชนของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่ใช่แรงงานต่างด้าว สามารถใช้ชีวิต และทำมาหากินในอำเภอที่ระบุในบัตรประชาชนได้ และไม่ใช่เป็นแรงงานต่างด้าว ดังนั้น หากประกอบอาชีพในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องมีการทำบัตรอนุญาตให้ทำงานเหมือนแรงงานต่างด้าว
นอกจากนี้ ยังมีมติคณะรัฐมนตรีผ่อนผันให้แก่ชาวไทยพลัดถิ่นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ให้ชาวไทยพลัดถิ่นสามารถออกไปทำงานนอกถิ่นที่อาศัย โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนายอำเภอในถิ่นที่อาศัยก่อน ดังนั้น การเข้าจับกุมชาวบ้านทั้ง 3 ราย จึงเป็นการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้น ในวันนี้จะต้องมาหาข้อยุติในเรื่องนี้ จะต้องมีการดำเนินการให้มีการปล่อยตัวบุคคลทั้ง 3 พร้อมให้ตำรวจ สภ.หนองพลับ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายในเรื่องนี้ เนื่องจากถือว่าเป็นการจับกุมบุคคลที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย
นายอำเภอหัวหิน กล่าวอีกว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีชาวไทยพลัดถิ่นอาศัยอยู่เกือบทุกอำเภอ สำหรับอำเภอหัวหิน มีชาวไทยพลัดถิ่น หรือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนอยู่หลายร้อยคน ในตำบลบึงนคร และห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดปัญหาชาวบ้านที่มีบัตรชมพูถูกจับกุม สามารถประกอบอาชีพทำมาหากินในพื้นที่ได้อย่างปกติ
“ในครั้งนี้ทางตำรวจ สภ.หนองพลับ ก็ยอมรับว่าเกิดความเข้าใจผิดกัน และจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ชาวบ้านทั้ง 3 ราย ที่ถูกจับกุมได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุด ผมจะใช้ตำแหน่งนายอำเภอหัวหิน ขอประกันตัวชาวบ้านทั้ง 3 รายออกมา พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้ตำรวจ สภ.หนองพลับ รับผิดชอบเยียวยา และชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งทางตำรวจเองจะนำไปหารือกับผู้บังคับบัญชาต่อไป พร้อมทั้งขอให้ ผกก.สภ.หนองพลับ เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในสังกัดอย่างมีจริยธรรม ตรงไปตรงมา พร้อมถามหาตำรวจชุดจับกุมแต่วันนี้ไม่มาแต่อย่างใด” นายอำเภอหัวหิน กล่าว
ภายหลังได้ข้อสรุปที่ชัดเจน นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปชี้แจงให้ชาวบ้านกว่า 200 คน ที่มาปักหลักรอขอความเป็นธรรมหน้า สภ.บ้านหนองพลับ รับทราบ ซึ่งชาวบ้านก็พอใจต่อข้อสรุปที่ได้ จึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ