อ่างทอง - ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสามโก้ รวมตัวบุกสหกรณ์การเกษตร สามโก้ จำกัด จี้ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังชาวบ้าน 245 ราย ถูกแอบอ้างชื่อกู้เงินสหกรณ์รายละกว่า 5 แสน-1 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำเรื่องกู้เงินมาก่อนแต่อย่างใด พบพิรุธสหกรณ์ฯ ปล่อยกู้โดยไม่มีเอกสารสำคัญประกอบ “นิติกรสหกรณ์” เต้นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว พร้อมเตรียมเข้าแจ้งความต่อตำรวจ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (25 ส.ค.) ที่สหกรณ์การเกษตร สามโก้ จำกัด หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ม่วงคัน อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง ได้มีชาวบ้านจากพื้นที่อำเภอสามโก้จำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตร สามโก้ เพื่อเรียกร้องให้ทางสหกรณ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากชาวบ้านในอำเภอสามโก้กว่า 240 ราย ต้องตกเป็นลูกหนี้สหกรณ์รายละกว่า 500,000 บาทโดยไม่ทราบสาเหตุมาก่อน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านทั้งหมดไม่เคยไปทำเรื่องกู้เงินจากสหกรณ์แต่อย่างใด และทำไมต้องเอารายชื่อของชาวบ้านไปแอบอ้างขอกู้เงินจากสหกรณ์ด้วย
นางสำราญ แก้วพานทอง อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ม่วงคัน อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาได้มีเพื่อนบ้านของตนมาบอกแก่ตนว่า ตนเองเป็นหนี้สหกรณ์การเกษตร สามโก้ จำกัด กว่า 200,000 บาท ซึ่งครั้งแรกตนไม่เชื่อเนื่องจากตนไม่เคยไปทำเรื่องขอกู้เงินจากสหกรณ์มาก่อนเลยสักครั้งเดียว แต่เพื่อนบ้านคนดังกล่าวยืนยันว่า ตนเป็นหนี้สหกรณ์จริง เพราะตัวเขาเอง และเพื่อนๆ บ้านอีกหลายคนก็เป็นหนี้สหกรณ์รายละกว่า 500,000 บาท โดยแต่ละคนที่เป็นหนี้ต่างยืนยันว่าไม่เคยไปทำเรื่องกู้เงินจากสหกรณ์ฯ มาก่อนแต่อย่างใด
“เมื่อทราบเรื่องก็ตกใจมากว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะตน รวมทั้งเพื่อนบ้านอีกหลายคนไม่มีใครเคยไปทำเรื่องขอกู้เงินต่อทางสหกรณ์การเกษตร สามโก้ จำกัด มาก่อนเลย พวกเราจึงพากันมาที่สหกรณ์ในวันนี้เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นของชาวบ้านก็พบว่า ชาวบ้านในอำเภอสามโก้ ซึ่งมีกว่า 245 ราย ต่างมีรายชื่อการกู้เงินกับสหกรณ์ทั้งนั้นตกรายละไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทกันทุกคน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านแต่ละคนไม่เคยไปทำเรื่องกู้เงินจากสหกรณ์กันเลย” นางสำราญ กล่าว
นางสำราญ กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาวันนี้พวกตน และชาวบ้านต้องการให้ทางสหกรณ์ฯ ตรวจสอบว่าใครที่ไปทำเรื่องกู้เงินจากสหกรณ์การเกษตร สามโก้ และทำไมถึงได้มีรายชื่อของตนกับชาวบ้านไปกู้เงินจากสหกรณ์ฯ เพราะจากการตรวจสอบเอกสารการกู้เงินแล้วในส่วนของตน พบว่า มีการระบุในเอกสารว่าทำมาตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2556 สมาชิกกลุ่มที่ 3 เลขทะเบียน 2741 ขอกู้เงิน 200,000 บาท มีวัตถุประสงค์ซ่อมแซมบ้าน 190,000 บาท ค่าหุ้น 1,000 บาท ซึ่งตนไม่ทราบว่าไปทำเรื่องกู้มาตั้งแต่เมื่อไร เพราะแม้แต่เอกสารบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านก็ไม่มีอะไรกันเลย มีแต่ใบขอกู้เงินของสหกรณ์เท่านั้น ทำไมทางสหกรณ์ฯ ถึงปล่อยให้กู้เงินกันไปได้อย่างง่ายดายนัก
“ยกตัวอย่าง เช่น ตนที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป บ้านหลังคาก็รั่วเงินจะซื้อข้าวกินยังไม่ค่อยจะมีกินแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปทำเรื่องกู้เงินตั้ง 200,000 บาท ทุกวันนี้ข้าวสารที่จะหุงกินยังจะไม่มี และหลังทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่า มีรายชื่อฉันไปขอกู้เงินจากสหกรณ์ฯ ตั้ง 200,000 บาท ตอนที่ตนทราบเรื่องแทบจะเป็นลม และตอนนี้เครียดมากเนื่องจากยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้สินสหกรณ์ฯ วันนี้จึงได้มาคุยกับทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ให้รู้เรื่องว่าใครเป็นคนแอบอ้างใช้ชื่อตน และชาวบ้านไปกู้เงิน และจะมีผลอะไรกับตนตามมาหรือไม่” นางสำราญ กล่าว
ด้านนายณัฐวุฒิ พรรนาคร เจ้าหน้าที่นิติของสหกรณ์การเกษตร สามโก้ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายชื่อของผู้กู้เงินทั้งหมดแล้ว โดยมีเอกสารการกู้เงินจริงทั้งสิ้น 245 ราย แต่เพิ่งจะตรวจเอกสารจากในตำบลโพธิ์ม่วงคัน แล้วกว่า 20 ราย โดยรายชื่อทั้งหมดกว่า 20 รายนี้เป็นชาวบ้านที่โดนแอบอ้างเอาชื่อไปใช้ในการกู้เงินกันไม่ต่ำกว่าคนละ 500,000 บาท และมีอยู่หนึ่งรายที่โดนใช้ชื่อกู้เงินไปกว่า 1,000,000 บาท แต่ยอดยังไม่สามารถสรุปได้ตอนนี้ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกทีว่าชาวบ้านทั้งหมด 245 ราย จะมีใครรู้เรื่องการกู้เงินบ้างหรือไม่
“ถ้าประเมินยอดเงินตอนนี้คงไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ที่ชาวบ้านโดนหลอกใช้ชื่อไปกู้เงิน เพราะในเอกสารการกู้ใช้โฉนดที่ดินมาทำเรื่องกู้ แต่โฉนดที่ดินไม่มีเลขที่ และไม่มีคนค้ำประกัน มีเพียงแต่การอนุมัติเงินปล่อยให้กู้ไปเท่านั้น และผมเองได้ปรึกษาเพื่อนบ้านเพื่อเตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว” นายณัฐวุฒิ กล่าว