พิษณุโลก - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กรมอุทยานฯ บุกยึดไม้ประดู่ ไม้แดงคาบ้านมอดไม้ “วัดโบสถ์” หลังชาวบ้านเห็นสร้างมาเป็นปีไม่เสร็จสักที แถมขนไม้เข้าออกไม่หยุด เจอไม้เถื่อนตีแปะไว้รอขายเพียบ แถมเค้นสอบเมียเพิ่ม พบไม้แดงซุกป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย รอแปรรูปอีกเพียบ
วันนี้ (22 พ.ย.) นายชาญชัย เรืองศิลป์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ พล.2 (วัดโบสถ์) นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าสายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมทหารสื่อสารที่ 4 จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ ตำรวจภูธรพิษณุโลก บุกค้นบ้านเลขที่ 227 หมู่ 11 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังมีพลเมืองดีแจ้งว่า มีการสร้างบ้านแบบน่าสงสัยเพราะสร้างนานเป็นปีไม่เสร็จ และนำไม้แปรรูปเข้าออกต่อเนื่อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย มี นางลดาวัลย์ เซ็งขุนทด อายุ 32 ปี ยอมรับว่า เป็นเจ้าบ้าน และเจ้าของไม้ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า มีไม้กระยาเลย ไม่ได้ตอกตะปู 27 แผ่น ปริมาตร 1.38 ลบ.ม. บริเวณหลังบ้านยังตรวจพบไม้กระยาเลยอีก 15 ท่อน จึงตรวจยึด คิดเป็นปริมาตร 2.17 ลบ.ม. ขณะที่ยังมีไม้แปรรูปอีกจำนวนมากอยู่บนบ้านตีตะปูเรียบร้อย ซึ่งยังไม่สามารถตรวจยึดครั้งนี้ได้
และได้จับกุม นางลดาวัลย์ เซ็งขุนทด พร้อมของกลางส่ง สภ.วัดโบสถ์ ตาม ปจว.ข้อ 6 คดี 215/58 ยึดทรัพย์ 96/58
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเค้นสอบผู้ต้องหา สารภาพว่า นำไม้มากจากเขตป่าสงวนฯ รอยต่อเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แยกย้ายลาดตะเวนผืนป่าทั้งหมด กระทั่งพบไม้แดงท่อน ทั้งที่ตัดใหม่และเก่า ซุกซ่อนกระจายตามพงหญ้า และลำห้วย บริเวณป่าหลังบ้านแก่งเจ็ดแคว หมู่ 11 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย โดยสามารถตรวจยึดไม้กระยาเลย 14 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 6.22 ลบ.ม. แต่ระหว่างลาดตะเวนไม่พบตัวผู้กระทำผิด จึงทำคดีนำส่ง พงส.สภ.วัดโบสถ์ ตาม ปจว.ข้อ 4 คดี 216/58 ยึดทรัพย์ 97/58
นายชาญชัย กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวทำไม้เถื่อนมานาน อ้างว่าเป็นผู้ยากไร้ ตัดไม้ไปทำบ้าน แต่สร้างไม่เสร็จสักที โดย นายทอง เซ็งขุนทด สามี นางลดาวัลย์ เซ็งขุนทด เป็นตัวหลักทำไม้เถื่อน เคยถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับมาแล้ว ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี (โทษรอลงอาญา) ระหว่างจู่โจมจับกุม นายทอง ไหวตัวหนีไปก่อน เจอแต่ภรรยา คือ นางลดาวัลย์ ในฐานะเจ้าของบ้าน จึงต้องรับสารภาพรับโทษแทน เพราะไม้กระยาเลย (ไม้ประดู่-แดง) ตีแปะอยู่เต็มบ้าน แถมมีหลักฐานตอไม้อยู่หลังบ้านอีกเพียบ
ด้าน นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าสายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้โดนยึดไม้เถื่อนแปรรูปคาบ้านพัก เมื่อเค้นสอบก็สารภาพว่า นำไม้มาจากป่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอุทยานฯ จึงลาดตระเวนขยายผลต่อเนื่อง กระทั่งพบไม้ท่อนขนาดใหญ่ คือ ไม้แดง ทั้งที่ตัดใหม่และเก่าซุกซ่อนอยู่ตามพงหญ้า และลำห้วยเพื่อรอจังหวะชักลากนำมาแปรรูปเพื่อขายแก่นายทุนดังกล่าว
ล่าสุด จนท.กรมอุทยานฯ และ จนท.กรมป่าไม้ ชักลากไม้ดู่-แดงท่อนไว้เป็นของกลางเก็บที่หน่วยฯ วัดโบสถ์ เรียบร้อยแล้ว
