xs
xsm
sm
md
lg

“แพลน บี มีเดีย” เริ่มซื้อขายใน ตลท. 17 ก.พ.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แพลน บี มีเดีย ผู้ให้บริการ และรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Out of Home Media) พร้อมซื้อขายใน ตลท. 17 ก.พ.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,990 ล้านบาท

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 โดย PLANB ดำเนินธุรกิจให้บริการ และรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Out of Home Media) 3 กลุ่มหลักคือ สื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน สื่อโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้า และสื่อโฆษณากลางแจ้ง ครอบคลุมพื้นที่ที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ด้วยนวัตกรรมสื่อโฆษณาที่ทันสมัย และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้สื่อโฆษณาของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ PLANB มีทุนชำระแล้ว 349.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 2,597.40 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 897.60 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) 874.20 ล้านหุ้น และต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ 23.40 ล้านหุ้น ในราคาเดียวกันที่หุ้นละ 2.00 บาท เมื่อวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2558 มีมูลค่าระดมทุน 1,795.22 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PLANB เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ครั้งนี้ จะช่วยเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการนำเสนอนวัตกรรมสื่อที่ทันสมัยอยู่เสมอ ตลอดจนเพิ่มปริมาณสื่อให้มีความหลากหลาย ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยจะนำเงินที่ได้ไปขยายสื่อโฆษณาที่เป็นนวัตกรรมใหม่หลายประเภท ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว และนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนและขยายธุรกิจในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทต่อไป

โดย PLANB มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประกอบด้วย นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ น.ส.อภิรดี โอภาสเอี่ยมลิขิต และบริษัทในกลุ่มถือหุ้นรวม 51% พีที อีลัง มาโคตา เทคโนโลยี ทีบีเค ถือหุ้น 11.3% และ กลุ่มนายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ ถือหุ้น 11.4%

ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO ทำโดยวิธี book building ที่ช่วงราคา 1.8-2.0 บาทต่อหุ้น และได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 2.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio ) 37.12 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 ตุลาคม 2556-30 กันยายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.05 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด


กำลังโหลดความคิดเห็น