ลำปาง - พ่อเมืองรถม้านำทีมเร่งสำรวจ พร้อมสนับสนุนงบพัฒนา “หล่มภูเขียว” แอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ คาดหลุมยุบกลางป่าดิบแล้งอายุ 280 ล้านปี ที่มีน้ำเขียว-ใสไม่เคยเน่า ลึกจนหยั่งไม่ถึงก้นบ่อ ชี้เป็นอีกหนึ่ง “อันซีนลำปาง” ชาวบ้านเชื่อมี “พญางูใหญ่” อาศัยอยู่
จังหวัดลำปางเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาด ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโหมกระหน่ำประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง จากที่มีจุดขายมากมายที่คนมองผ่านไป เมื่อเร็วๆ นี้ นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว “หล่มภูเขียว” ซึ่งถือว่าเป็น Unseen Lampang ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท พื้นที่หมู่ 6 ต.บ้านอ้อน อ.งาว โดยมีนายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท พร้อมผู้นำท้องถิ่น นำสำรวจ พร้อมเสนอแผนพัฒนาหล่มภูเขียว
เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาปรับปรุงถนนทางเข้าจากปากทางไปยังหล่มภูเขียว ซึ่งปัจจุบันยังเป็นถนนดินแดงที่เต็มไปด้วยฝุ่น ฤดูฝนถนนลื่นไม่สามารถเข้าไปได้ โดยมีการเสนอทำเป็นถนนลูกรังบดอัด ขนาดกว้าง 4 เมตร ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร, ปรับทัศนียภาพบริเวณลานจอดรถยนต์-พื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าของชาวบ้าน, พัฒนาห้องน้ำ พื้นผิวทางเดินเท้าและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว
สำหรับ “หล่มภูเขียว” เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 2 ไร่ อยู่กลางป่าดิบแล้งล้อมรอบไปด้วยผาหินปูนสูงชัน มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่โดยรอบ บรรยากาศเงียบสงบ ผิวน้ำในแอ่งมีสีเขียวมรกตคล้ายโอเอซิส ลึกจนไม่สามารถหยั่งถึง
ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานว่า หล่มภูเขียว เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกในสมัยดึกดำบรรพ์ หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูน ซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เรียกว่าหลุมยุบ (Sink Hole) คาดว่ามีอายุกว่า 280 ล้านปี ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งรับน้ำ ความลึกไม่สามารถหยั่งถึง ก่อนหน้านี้เคยมีการนำไม้ปักลงไปแต่ก็ไม่ถึงพื้นดิน จึงไม่สามารถวัดความลึกของแอ่งน้ำแห่งนี้ได้
ชาวบ้านได้เล่าว่า แอ่งน้ำแห่งนี้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เป็นแอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำไปรักษาผู้ป่วยให้หายได้ และหากมีงานประเพณี ชาวบ้านก็จะนำน้ำจากแอ่งนี้ไปใช้ในการทำน้ำพระพุทธมนต์ และจะไม่มีใครลงไปเล่นน้ำ ที่ผ่านมามีการนำปลาหลากชนิดมาปล่อยจนมีตัวขนาดใหญ่ และจะไม่มีใครกล้านำปลาในแอ่งนี้ไปรับประทาน เพราะเชื่อว่าหากใครมานำปลาไปรับประทานก็จะเกิดเภทภัยขึ้น และไม่อนุญาตให้อาหารปลาโดยเด็ดขาด
ชาวบ้านยังพบเจอเรื่องราวมหัศจรรย์อีกหลายครั้ง เช่น การบนบานศาลกล่าว ชาวบ้านเคยนำเทียนมาจุดบนแพลอยไปบนผิวน้ำ จู่ๆ แพได้จมลงไปชั่วครู่ก่อนโผล่ขึ้นมา โดยเทียนที่จุดไว้ก็ยังคงมีเปลวไฟอยู่ สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่ชาวบ้านยังหาคำตอบไม่ได้คือ บริเวณโดยรอบแอ่งน้ำจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ล้อมรอบ ทุกวันจะมีใบไม้หล่นลงมาจนเต็ม แต่ปรากฏว่าทุกเช้าใบไม้เหล่านั้นจะหายไปหมด น้ำจะใสเขียวจนเห็นตัวปลา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าหากใบไม้ที่ตกทับถมกัน และจมอยู่ก้นแอ่งน้ำหลายร้อยปี โดยที่น้ำไม่หมุนเวียน แอ่งน้ำแห่งนี้น่าจะเน่าเสียไปแล้ว จึงเชื่อว่าแอ่งน้ำแห่งนี้มี “เจ้าพ่อหล่มภูเขียว” คอยปกปักรักษาและดูแล จึงได้ตั้งศาลไว้ด้านบนแอ่งน้ำแห่งนี้เพื่อสักการะ และทุกปีจะมีการจัดพิธีบูชาน้ำ เพราะเชื่อว่าในแอ่งน้ำมี “พญางูใหญ่” อาศัยอยู่
สำหรับเส้นทางเข้าไปยัง “หล่มภูเขียว”นั้น หากนักเดินทางไปยังอำเภองาว ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปทางตำบลบ้านอ้อน ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวเข้าทางน้ำตกแม่แก้ ไปทางหล่มภูเขียว ด้วยเส้นทางดินแดงประมาณ 4.5 กิโเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายขนาดเล็กบอกเส้นทางจนถึงหล่มภูเขียว