ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชลประทานเชียงใหม่เปิดโครงการฝากน้ำกินน้ำใช้ เริ่มเดินเครื่องทำการสูบน้ำจากคลองชลประทานแม่แตงเข้าฝากกักเก็บในอ่างและสระน้ำของทหารและส่วนราชการ 5 แห่ง ความจุรวม 1.09 ล้าน ลบ.ม. หลังคาดช่วง เม.ย.-พ.ค. 59 เสี่ยงวิกฤตแล้งขาดแคลนน้ำ
วันนี้ (16 พ.ย. 58) ที่บริเวณคลองชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง หน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการ “ฝากน้ำกิ๋นน้ำใจ๊ ฮื้อหมู่เฮาจาวเจียงใหม่” ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการโดยสำนักงานชลประทานที่ 1, โครงการชลประทานเชียงใหม่ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนทั้งมณฑลทหารบกที่ 33, กองพันสัตว์ต่าง, กองพลทหารราบที่ 7, พลรบพิเศษที่ 5, สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และการประปาส่วนภูมิภาค
การดำเนินการตามโครงการนี้จะทำการสูบน้ำจากคลองชลประทานเข้ากักเก็บไว้ในแหล่งน้ำ 5 แห่ง รวมความจุทั้งสิ้น 1,091,000 ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่หยวก ความจุกักเก็บ 300,000 ลูกบาศก์เมตร, สระเก็บน้ำของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จำนวน 6 แห่ง ความจุรวม 532,000 ลูกบาศก์เมตร
สระเก็บน้ำของกองพันสัตว์ต่าง จำนวน 1 แห่ง ความจุ 120,000 ลูกบาศก์เมตร, สระเก็บน้ำของพลทหารราบที่ 7 จำนวน 3 แห่ง ความจุรวม 119,000 ลูกบาศก์เมตร และสระเก็บน้ำของพลรบพิเศษที่ 5 จำนวน 1 แห่ง ความจุ 20,000 ลูกบาศก์เมตร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้รุนแรงอย่างหนักทั่วทั้งประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีประชากรเป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค ข้อมูลล่าสุดพบว่ามีปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนหลักรวมเพียง 18% เท่านั้น โดยจากการประมาณการคาดว่าน่าจะพอใช้ได้ถึงประมาณเดือน พ.ค. 59
อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นที่ต้องมีการบริหารจัดการและเตรียมแผนรองรับไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันผลกระทบและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการดำเนินการตามโครงการนี้ ที่จะอาศัยช่วงที่เกษตรกรว่างเว้นจากการเพาะปลูก ทำการกักเก็บน้ำไว้ในแหล่งเก็บน้ำของทางราชการหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อสำรองไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ขณะที่นายจานุวัตร เลิศเจริญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการสำรองน้ำไว้ใช้ในกรณีที่อาจจะเกิดวิกฤติเพื่อคนเชียงใหม่ในช่วงที่แหล่งน้ำสำคัญอื่นขาดแคลน โดยเป็นการกักเก็บน้ำจากลำน้ำแม่แตงที่ไม่มีแหล่งน้ำกักเก็บ ช่วงนี้เป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ที่ไม่มีการส่งน้ำเข้าแปลงเพาะปลูก จึงทำการสูบและผันน้ำเข้าทำการกักเก็บไว้รวมความจุทั้งสิ้นประมาณ 1,091,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 59 ที่มีความกังวลว่าอาจจะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยน้ำปริมาณดังกล่าวนี้สามารถใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรในการดูแลไม้ยืนต้นและการปศุสัตว์ ได้ประมาณ 30 วัน ในกรณีที่ไม่เพียงพอยังมีน้ำกักเก็บสำรองอีกจาก 3 แหล่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง, อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และอ่างเก็บน้ำแม่เย็น ความจุรวม 1,345,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สามารถสำรองใช้ได้อีกประมาณ 30 วัน