ศูนย์ข่าวศรีราชา - ธรรมชาติสรรค์สร้างบ่อดินลูกรังเก่าในเหมืองร้างเมืองชลบุรี จนกลายเป็น “แกรนด์แคนยอน คีรี” ที่น่าอัศจรรย์ เผยคนหลงทางพบโดยบังเอิญ พอถ่ายรูปแชร์ผ่านโลกออนไลน์เท่านั้นผู้คนแห่เที่ยวตรึม บอกเหมือนไปเมืองนอกยังไงยังงั้น แต่ยังไร้มาตรการดูแลความปลอดภัย เสี่ยงเกิดเรื่องเศร้าตามมา
ขณะนี้ผู้คนในโลกออกไลน์ สื่อสาธารณะที่มีความมีอ่อนไหวสูง กำลังกล่าวขวัญกันถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของฝีมือมนุษย์ บวกกับการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากบ่อดินลูกรังเก่าพื้นที่นับ 100 ไร่ ลึกไม่น้อยกว่า 30 เมตร เขตหมู่ที่ 7 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ที่มีน้ำเขียว-ใสอยู่เต็มบ่อ จนกลายเป็น “แกรนด์แคนยอน คีรี”
นางนภาพร น่วมศรีนวล อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณใกล้เคียง บอกว่า แกรนด์แคนยอน คีรี เป็นบ่อดินลูกรังเก่า ซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่ปกติ ในสมัยก่อนนั้นเกิดโครงการก่อสร้างต่างๆ ขึ้นมากมายในภูมิภาค ซึ่งเป็นผลพวงมาจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ทำให้มีความต้องการดินลูกรังสำหรับโครงการก่อสร้าง จึงมีการขุดดินไปขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ประกอบกับกรมทรัพยากรธรณีและสิ่งแวดล้อมในสมัยนั้นได้อนุญาตให้เอกชนที่ได้รับสัมปทานทำเหมือง ขุดดินลูกรัง และหิน หลังจากที่มีทางรถไฟตัดผ่านห่างจากปากเหมืองประมาณ 100 เมตร ทางการรถไฟฯ เกรงว่าแรงสั่นจากการระเบิดหินจะทำให้รางรถไฟชำรุด ส่งผลถึงการสัญจรที่ไม่ปลอดภัยของรถไฟ จึงได้ยกเลิกสัมปทานทำเหมืองในบริเวณดังกล่าว และได้ทำแผงปูกันหน้าดินถล่มตรงฝั่งที่มีรถไฟวิ่งผ่าน หลังจากที่มีการขุดตักเอาหน้าดินไปหมดแล้วก็ปล่อยที่ดินแห่งนี้ จึงกลายเป็นที่รกร้างมานำหินไปกั้นไว้
“ต่อมาได้คนหลงเข้ามา แล้วถ่ายรูปไปลงทางอินเทอร์เน็ต จึงมีผู้คนเริ่มทยอยมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมากทุกวัน”
นักศึกษารายหนึ่งได้เล่าถึงความสวยงามของเหมืองร้างแห่งนี้ว่า เมื่อได้มองในครั้งแรกเหมือนมีมนต์สะกด ให้หยุดอยู่กับบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัสจากที่ไหนมาก่อน เมื่อมองลงไปข้างล่างเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต มีต้นไม้ขึ้นตามผาหินอยู่เป็นจุดๆ เปรียบได้กับ “แกรนด์แคนยอน” ของเมืองนอก แต่นี่เป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทย ที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์
อย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนี้ยังไม่มีการดูแลด้านความปลอดภัย เพราะถือเป็นสถานที่แห่งใหม่ที่ผู้คนเพิ่งจะรู้กัน จึงอยากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล และจัดการเรื่องความปลอดภัย เพื่อผลักดันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ต่อไป และขอให้ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวชม-ถ่ายภาพ โปรดใช้ความระมัดระวังด้วยเช่นกัน
ซึ่งถ้าในอนาคตหน่วยงานภาครัฐมีส่งเสริมให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจะส่งผลดีในการประกอบอาชีพค้าขายให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณทางเข้าเหมืองแห่งนี้
ด้าน น.ส.ยุภาภักดิ์ สมขาว นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 2 เปิดเผยว่า ได้เห็นรุ่นพี่นำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กรู้สึกสนใจ จึงเข้ามาดู และพอมาเห็นรู้สึกเหมือนได้ไปต่างประเทศที่เป็นเมืองเล็กในแหล่งอุตสาหกรรม จึงได้มาถ่ายภาพเพื่อเก็บไปทำรายงาน แต่สถานที่แห่งนี้ยังไม่มีการดูแลด้านความปลอดภัย จึงขอให้ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวชม และถ่ายภาพโปรดระมัดระวัง เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายพลัดตกได้