ท่าเรือแหลมฉบังระดมความเห็น กำหนดทิศทางการดำเนินงาน หลังเอกชนหมดสัญญาเช่า

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง ระดมความคิดเห็นโครงการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงาน หลังสิ้นสุดสัญญากับผู้ประกอบการเอกชน

วันนี้ (4 พ.ย.58) ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธานเปิดงานประชุมระดมความคิดเห็นโครงการการศึกษา และวิเคาระห์ โครงการตามข้อกำหนด ในพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ท่าเทียบเรือ เอ 5 และ บี 1 ภายหลังสิ้นสุดสัญญา

ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ทางการท่าเรือแหลมได้ว่าจ้าง มหาวิทยาลัยบูรพา ทำการศึกษาเพื่อดำเนินการ การศึกษาและวิเคราะห์ โครงการตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ท่าเทียบเรือ เอ 5 และ บี 1 ภายหลังสิ้นสุดสัญญา

สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2557 ประกาศเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2557 ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยของรัฐและสาธารณชน ที่เกี่ยวข้องนั้น ทั้งนี้เพื่อให้การระดมความคิดเห็นดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงได้ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้สนใจร่วมรับฟัง เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนกับโครงการดังกล่าว

รศ.ดร.ทวีศักดิ์ เทพพิทักษ์ กล่าวว่า การจัดการทำโครงการนี้เพื่อวิเคราะห์และศึกษาแนวทางรูปแบบการดำเนินการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการประกอบการทำถ้าเทียบเรือเอ 5 และบี 1 กรณีสิ้นสุดสัญญาประกอบการหลังสิ้นสุดสัญญา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนการดำเนินการ

รวมทั้งศึกษาเปรียบเทียบต้นทุนและความคุ้มค่าในการดำเนินการ การใช้งบประมาณแผ่นดินหรืองบประมาณของหน่วยงานของรัฐกับการให้เอกชนร่วมลงทุน และเพื่อวิเคราะห์และประเมินทางเลือกในการให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งความสนใจและความพร้อมของเอกชนในรูปแบบความเสี่ยงของโครงการ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเชิญชวนให้เอกชนได้สนใจเข้าร่วมลงทุนด้วย

ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษาได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นคิดของผู้ประกอบการจากท่าเทียบเรือ และหน่วยงานอื่น เพื่อนำมาประกอบในการศึกษาวิเคราะห์ ฯ รวมทั้งในการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ด้วย

พบว่าปัญหา และอุปสรรคในการบริหารสัญญาให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐที่ผ่านมา คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ไม่สามารถกำหนดให้เอกชนผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ให้เป็นไปตามแผนธุรกิจที่เสนอไว้ การบังคับใช้อัตราค่าภาระภาในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ประสิทธิภาพของการให้บริการในพื้นที่หลังท่าเทียบเรือ ภาษีโรงเรือน การกำหนดอัตราค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช่ร่วมกัน และ ความแตกต่างด้านต้นทุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ

ด้านนายจิระศักดิ์ จั่นบำรุง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บริษัทแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด ท่าเทียบเรือเอ5 กล่าวว่า อยากสะท้อนให้เป็นข้อมูลในการทำไปศึกษา คือในเรื่องของ การจัดเก็บภาษีโรงเรือนของท้องถิ่น เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีการพูดคุยกันหลายๆผู้ประกอบการแล้ว มีความเห็น ว่า การจัดเก็บภาษีโรงเรือนไม่เป็นธรรม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกยินดีที่จะจ่ายแต่ของให้มีความเป็นธรรม

สำหรับในภาพรวมของการแสดงความคิดเห็นในวันนี้ ส่วนใหญ่ อยากให้มีการการแก้ไขระบบการจราจรภายในท่าเทียบเรือเนื่องจากมีปัญหามาก