ศูนย์ข่าวศรีราชา - เด็ก ม.ต้น-ปลายใน จ.ชลบุรี แห่สมัครเข้าศึกษาต่อในระดับ ปวช และ ปวส.ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก หรืออี.เทค ซึ่งเปิดรับสมัครนักศึกษาเข้าเรียนต่อในปีการศึกษาหน้าเป็นวันแรก และจำกัดจำนวนเพียง 2 พันคน โดย ผอ.วิทยาลัยฯ เผยนอกจากเผลสัมฤทธิ์ของแผนจัดการศึกษารูปแบบ “ชลบุรีโมเดล” ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนเรียนจบแล้วมีงานทำจะเริ่มเป็นผล ปัจจุบัน ผู้ปกครองเข้าใจในระบบการเรียนของอาชีวศึกษามากขึ้น
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าสังเกตุการณ์การเปิดรับสมัครนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและปลาย เข้าศึกษาต่อในระดับ ปวช.และ ปวส. ในปีการศึกษาหน้าของวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก หรืออี.เทค ซึ่งเปิดรับสมัครเป็นวันแรก และจำกัดจำนวนรับนักศึกษาเพียง 2 พันคน พบว่า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีนักเรียนในระดับมัธยมต้น และปลายทั้งในจังหวัดชลบุรี และใกล้เคียงแห่เดินทางมาสมัครเข้าเป็นนักศึกษาใหม่จำนวนมาก ขณะที่บางรายออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 05.00 น.เพื่อมาจองคิดสมัคร เพราะเกรงว่าสาขาวิชาที่เปิดรับจะเต็มก่อน
ดร.ประเสริฐ กลิ่นชู ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก หรืออี.เทค เผยว่า สาเหตุที่ทำให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และปีที่ 6 ในจังหวัดชลบุรี และใกล้เคียงหันมาสมัครศึกษาต่อในระบบอาชีวศึกษามากขึ้น ปัจจัยสำคัญนอกจากจะมาจากชื่อเสียงของวิทยาลัยฯ ที่สามารถการันตีเรื่องการเรียนจบแล้วมีงานทำได้ 100%
ผู้ปกครองในยุคปัจจุบันยังมีความเข้าใจในระบบการเรียนการสอนแบบทวิภาคี ที่จะทำให้บุตรหลานมีงานทำอย่างแน่นอน และที่ผ่านมา ความเข้มงวดในระเบียบวินัยของวิทยาลัยฯ ยังสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักศึกษาในระบบอาชีวศึกษาได้เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งยังได้รับการยอมรับจากสังคม จนทำให้เป็นวิทยาลัยระดับอาชีวศึกษาที่มีนักศึกษามากที่สุดในประเทศอีกด้วย
นอกจากนั้น ความสำเร็จของแผนจัดทำหลักสูตรการจัดเรียนการสอนเพื่อมุ่งเน้นให้มีงานทำของจังหวัดชลบุรี และยังเป็นโครงการนำร่องให้แก่จังหวัดอื่นๆ ภายใต้ชื่อ “ชลบุรีโมเดล” ด้วยการนำสถานศึกษาในจังหวัดรวม 23 แห่ง มาทำ MOU ร่วมกับจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหลักสูตรการเรียนให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
โดยเฉพาะการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว และเดินหน้าปรับเปลี่ยนทัศนคติ และค่านิยมของผู้ปกครองให้หันมาส่งเสริมสนับสนุนเด็ก และเยาวชนให้เข้าศึกษาต่อในระดับปวช. และ ปวส. ตามนโยบายของรัฐบาล และตลาดแรงงานก็เริ่มสัมฤทธิผล จึงสามารถสร้างความเข้าใจให้แก่นักเรียน และผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี
“สำหรับเงื่อนไขการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อของวิทยาลัยฯ ในวันรับสมัครเราได้จัดให้มีการตรวจเช็กร่างกายเพื่อตรวจหาสารเสพติด ซึ่งหากพบว่าผู้สมัครรายได้เจาะหู และมีรอยสัก เราจะปฏิเสธการรับในทันที เรื่องนี้คือกฎที่เข้มงวดที่นักศึกษาทุกคนรู้ดี นอกจากนั้น ในบางสาขาวิชาที่เป็นที่นิยม เช่น สาขาช่างยนต์ ที่เปิดรับเพียง 9 ห้อง ก็พบว่า มีผู้ปกครอง และนักเรียนหลายรายพากันมาเข้าคิวรอสมัครตั้งแต่ตี 5 บางคนมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ซึ่งวิทยาลัยฯ ยังไม่เปิดทำการ เพื่อให้บุตรหลายได้เข้าศึกษาตามความต้องการ” ดร.ประเสริฐ กล่าว
โดยผู้ปกครองรายหนึ่งเผยว่า ได้นำบุตรสาวเดินทางมาจองคิวสมัครเรียนในสาขาการตลาดที่วิทยาลัยแห่งนี้ตั้งแต่ 06.00 น.เพราะเกรงว่าสาขาดังกล่าวจะปิดรับสมัครก่อน ทั้งนี้ มั่นใจว่าระบบการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษาจะทำให้บุตรสาวมีงานทำหลังเรียนจบ พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจในระบบการเรียนการสอนของวิทยาลัยอีกด้วย