ประจวบคีรีขันธ์ - ตร.ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน ทหาร และสาธารณสุข นำกำลังเข้าจับกุมร้านลิ้มเจริญฟาร์มาซี หัวหิน พร้อมของกลางยาที่ไม่ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายจำนวนมาก ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีถึง 5 ข้อหา
วันนี้ (31 ต.ค.) ร.ต.ท.สนั่น สีปาน รอง สว. (สส) กก.สส.3 บก.สส.ภ.7 พร้อมกำลังตำรวจภูธรประจวบฯ ทหารมณฑลทหารบกที่ 5 ทหารศูนย์การทหาราบค่ายธนะรัชต์ ตชด.145 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ รักษาราชการแทนผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายวรวิทย์ ดวงแก้ว ปลัดอำเภอหัวหิน ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหัวหิน และประจวบฯ
ได้ร่วมกันเข้าจับกุม น.ส.ธิดารัตน์ หรือเอ๋ ลิ้มตระกูล อายุ 43 ปี ภายในร้านขายยาลิ้มเจริญฟาร์มาซี 2 เลขที่ 21/188 หมู่ 3 ซอยหมู่บ้านทางรถไฟฝั่งตะวันตก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยของกลางภายในร้านจำนวนมาก ทั้งประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (อัลปาโซแลม) โดยผิดกฎหมาย แผงละ 10 เม็ด รวม 6 แผง และยาเสพติดให้โทษประเภท 2(CODAGIN) แผงละ 10 เม็ด 8 แผง
นอกจากนั้น ยังมียา sibutramine ยาไม่ได้ขึ้นทะเบียน 2 กล่อง 20 แผงๆ ละ 2 เม็ด ยาkamagra 12แผงๆ ละ 4เม็ด ยา organon 2 กล่องๆ ละ 5 หลอด ตลอดจนยาแค็ปซูลสีเขียว-เหลือง ไม่มีฉลากยา และไม่มีทะเบียนยาบรรจุในถุงพลาสติก จำนวน 299 ถุงๆ ละ 10 แคปซูล รวม 2,970 เม็ด และยาโปรโคติล ยาอันตรายต้องจ่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น และต้องทำบรรจุควบคุมการซื้อขายเท่านั้น จำนวน 4 ลังๆ ละ50 ขวด มีอยู่ 1 ลัง จำหน่ายไปแล้ว 3 ขวด เป็นจำนวนทั้งหมด 199 ขวด
หลังจากจับกุม และนำตัวมาสอบสวนแล้วจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งข้อกล่าวหา 1.ขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 โดยผิดกฎหมาย 2.ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ใดๆ ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 โดยผิดกฏหมาย3.มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (codagin) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย 4.มียาไม่มีทะเบียนตำรับไว้เพื่อจำหน่วยโดยผิดกฎหมาย และ 5.ไม่จัดทำบัญชียาตามาตรา 26 พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510
ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอหัวหินได้สืบทราบว่าในพื้นที่หัวหินมีร้านขายยาที่ผิดกฎหมาย ทั้งยาอัลปาโซแลม ซึ่งจำหน่ายในราคาแผงละ 350 บาท จึงวางแผนล่อซื้อยาภายในร้านขายยาดังกล่าวที่เข้าจับกุม และภายในร้านขายยาดังกล่าวก็ไม่มีเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการอยู่ภายในร้าน ซึ่ง น.ส.ธิดารัตน์ หรือเอ๋ รับต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า เป็นเจ้าของร้านยาดังกล่าว ซึ่งยาทั้งหมดก็เป็นของตนเองโดยสั่งซื้อมาจำหน่าย