รวบ 4 สาวขายยาอันตราย-ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ของกลางยาน้ำแก้ไอ 15,000 ขวด ยาแคปซูล-อัลฟาโซแรม-โคเดอีน รวมกว่า 4.9 หมื่นเม็ด หลังเกิดคดีชิงทรัพย์ต่อเนื่อง สืบจนพบวัยรุ่นที่ก่อเหตุ นิยมเสพยาเสพติดผสมยาแก้ไอ โค้ก ใบกระท่อม และยากันยุง จนนำไปสู่การจับกุม
วานนี้ (1 เม.ย.) ที่ บก.สปพ. พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.รัชยุตย์ วัชรโกมลมาศ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ต.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สว.กก.สายตรวจ บก.สปพ. เภสัชกร ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม ผอ.ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.ณัฐธิดาธารณ์ ธนสารบัณฑิต อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเฮงฟาร์มาซี เลขที่ 1521 ซอยนวมินทร์ 8 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. น.ส.ธัญลักษณ์ วงศ์คำดี อายุ 34 ปี เจ้าของร้านยาเฮงเฮง ฟาร์มาซี เลขที่ 5 ซอยนวมินทร์ 6 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
น.ส.ศศิกานต์ หนูเกื้อ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านยารามคำแหง เลขที่ 56/4 ซอยหัวหมาก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. และน.ส.เขลางค์ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 44 ปี เจ้าของร้านหมอยาห้าสาม ซอยรามคำแหง 53 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. พร้อมของกลางยาน้ำแก้ไอ 15,000 ขวด ยาแคปซูล สีเขียว-เหลืองไม่มีฉลาก 49,200 เม็ด ยาเม็ดอัลฟาโซแรม 110 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเดอีน 70 เม็ด
พ.ต.อ.ภาณุมาศกล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมามีการก่อเหตุประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ต่อเนื่องหลายคดี จากการสอบสวนทราบว่าวัยรุ่นที่ก่อเหตุนิยมเสพยาเสพติดที่มีการผสมยาแก้ไอ โค้ก ใบกระท่อม และยากันยุง หรือสี่คูณร้อย จึงได้สืบสวนโดยประสานกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข นำกำลังลงพื้นที่และทำการจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านเภสัชกร ประพนธ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบของกลางพบว่ามีการแบ่งตัวยาออกเป็น 2 แบบ คือ แบบออกฤทธิ์กดประสาท กินแล้วทำให้ง่วง ซึม ส่วนใหญ่เป็นยาแก้ไอชนิดน้ำ เป็นยาที่อนุญาตให้ขายได้แต่ต้องไม่เกิน 300 ขวดต่อร้านและต่อวัน ขายให้ผู้ป่วยคนละไม่เกิน 3 ขวด จากการตรวจสอบพบว่าร้านเฮงฟาร์มาซี จำหน่ายและครอบครองเกินที่กำหนด
แบบที่ 2 คือ ยาแก้ไอประเภทเม็ดแคปซูล เป็นยาชนิดระงับประสาท อันตรายต่อคนเป็นโรคหัวใจ วัยรุ่นนิยมนำมาต้มเป็นส่วนผสมสี่คูณร้อย เป็นยาที่อนุญาตให้ขายแต่ไม่เกิน 1,000 เม็ดต่อร้าน และขายให้ผู้ป่วยเท่านั้น คนละไม่เกิน 30 เม็ด ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี ต้องมีบัญชีการขาย และต้องขายโดยเภสัชกรเท่านั้น จากการตรวจสอบพบว่า ร้านเฮงเฮงฟาร์มาซี ร้านรามคำแหง และร้านหมอยาห้าสาม มีครอบครองเกินที่กำหนด และขายให้ลูกค้าโดยที่ไม่ใช่เภสัชกร ไม่มีบัญชี ซึ่งร้านทั้งหมดนี้จะถูกยึดใบอนุญาต 120 วัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา น.ส.ณัฐธิดาธารณ์ เจ้าของร้านเฮงฟาร์มาซี ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา น.ส.ธัญลักษณ์ เจ้าของร้านยาเฮงเฮงฟาร์มาซี ข้อหาขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ ไม่จัดทำบัญชีซื้อ และขายยาที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเดอีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ส่วน น.ส.ศศิกานต์ เจ้าของร้านยารามคำแหง ถูกตั้งข้อหาขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ ไม่จัดทำบัญชีซื้อและขายยาที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต น.ส.เขลางค์ เจ้าของร้าน หมอยาห้าสาม ข้อหาขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ ไม่จัดทำบัญชีซื้อและขายยาที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (อัลฟาโซแรม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดี