ฉะเชิงเทรา - แม่ค้าแม่ขายยังคงจุดเทียนส่องไฟทำการค้าขายท่ามกลางวิกฤต ขณะประชาชนอยู่ในความมืดมิดออกตระเวนหาซื้ออาหารการกินประทังชีวิตช่วงมื้อค่ำแน่น ส่วนสถานการณ์ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้าหักโค่นขวางถนนทั่วทั้งเมืองเริ่มคลี่คลาย หลังหลายหน่วยงานเร่งช่วยกันกู้คืนพื้นผิวการจราจร ทำท้องถนนสายหลักเริ่มกลับมาใช้การได้ตามปกติอีกครั้งแล้ว
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุพายุพัดถล่มเมืองแปดริ้ว จนทำให้เสาไฟฟ้า และต้นไม้ล้มหักโค่นขวางถนน จนทำให้กระแสไฟฟ้าดับไปทั่วทั้งเมืองเมื่อช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ถนนหลายสายเริ่มกลับมาใช้งานได้จนเกือบเป็นปกติอีกครั้งแล้ว ส่วนตามตรอก ซอก และซอยแยกอีกหลายแห่งยังคงมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางเส้นทางเข้าออกบ้านเรือนประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังขาดแคลนเจ้าหน้าที่เข้าทำการตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่ล้มขวางเส้นทางออกไป
เนื่องจากมีเพียง 2 หน่วยงานหลักเท่านั้นที่ยังคงช่วยกันทำงานอย่างขันแข็ง ตัดแยกกิ่งไม้ออกจากท้องถนน คือ เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา ส่วนด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นยังคงเร่งเก็บกู้ซากเสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มลงมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากได้หลายแห่งแล้ว
โดยล่าสุด ได้เริ่มเคลื่อนย้ายซากเสาไฟฟ้า และรถยนต์ของประชาชนที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจำนวน 2 คัน ออกจากเส้นทางบนถนนสายเกาะไร่-วัดพิมพาวาส ในเขตพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ และ อ.บางปะกง ได้แล้ว จึงทำให้การจราจรที่ติดขัดอย่างหนักเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากเส้นทางถนนสายดังกล่าวนี้เป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญในระบบลอจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมต่อไปยังด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และถนนบางนา-ตราด กม.35 ได้
นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอู่จอดรถภาคการขนส่งของผู้ประกอบการลอจิสติกส์ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวนหลายรายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อีกด้วย โดยเฉพาะบริษัทในเครือของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ (โตโยต้า) ที่มีการใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรอย่างหนักในขณะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในลักษณะนี้
ส่วนบรรดาแม่ค้าพ่อค้าอาหารรถเข็นต่างพากันจุดเทียนส่องสว่างเพื่อทำการค้าขายกันอย่างคึกคักถ้วนหน้า จากการที่บ้านเรือนประชาชนกระแสไฟฟ้าดับ ไม่มีไฟฟ้าในการประกอบอาหาร และได้พากันออกมาหาซื้ออาหารจากบรรดาแม่ค้ารถเข็นกลับไปบริโภคเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฉะเชิงเทราได้เร่งทยอยทำการต่อเชื่อมสายไฟฟ้า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชนได้ในหลายจุดแล้ว จึงทำให้สถานการณ์ภายในเขตพื้นที่ตัวเมืองฉะเชิงเทราเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ภายใน รพ.พุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) นั้น ยังได้เกิดเหตุต้นไม้ล้มทับเครื่องบรรจุถังก๊าซออกซิเจนจนทำให้เกิดการรั่วไหล และยังคงอยู่ระหว่างการรอให้ทางบริษัทเอกชนผู้รับผิดชอบเดินทางเข้ามาทำการแก้ไขในจุดเกิดเหตุดังกล่าวในขณะนี้
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุพายุพัดถล่มเมืองแปดริ้ว จนทำให้เสาไฟฟ้า และต้นไม้ล้มหักโค่นขวางถนน จนทำให้กระแสไฟฟ้าดับไปทั่วทั้งเมืองเมื่อช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ถนนหลายสายเริ่มกลับมาใช้งานได้จนเกือบเป็นปกติอีกครั้งแล้ว ส่วนตามตรอก ซอก และซอยแยกอีกหลายแห่งยังคงมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางเส้นทางเข้าออกบ้านเรือนประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังขาดแคลนเจ้าหน้าที่เข้าทำการตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่ล้มขวางเส้นทางออกไป
เนื่องจากมีเพียง 2 หน่วยงานหลักเท่านั้นที่ยังคงช่วยกันทำงานอย่างขันแข็ง ตัดแยกกิ่งไม้ออกจากท้องถนน คือ เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา ส่วนด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นยังคงเร่งเก็บกู้ซากเสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มลงมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากได้หลายแห่งแล้ว
โดยล่าสุด ได้เริ่มเคลื่อนย้ายซากเสาไฟฟ้า และรถยนต์ของประชาชนที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจำนวน 2 คัน ออกจากเส้นทางบนถนนสายเกาะไร่-วัดพิมพาวาส ในเขตพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ และ อ.บางปะกง ได้แล้ว จึงทำให้การจราจรที่ติดขัดอย่างหนักเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากเส้นทางถนนสายดังกล่าวนี้เป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญในระบบลอจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมต่อไปยังด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และถนนบางนา-ตราด กม.35 ได้
นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอู่จอดรถภาคการขนส่งของผู้ประกอบการลอจิสติกส์ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวนหลายรายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อีกด้วย โดยเฉพาะบริษัทในเครือของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ (โตโยต้า) ที่มีการใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรอย่างหนักในขณะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในลักษณะนี้
ส่วนบรรดาแม่ค้าพ่อค้าอาหารรถเข็นต่างพากันจุดเทียนส่องสว่างเพื่อทำการค้าขายกันอย่างคึกคักถ้วนหน้า จากการที่บ้านเรือนประชาชนกระแสไฟฟ้าดับ ไม่มีไฟฟ้าในการประกอบอาหาร และได้พากันออกมาหาซื้ออาหารจากบรรดาแม่ค้ารถเข็นกลับไปบริโภคเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฉะเชิงเทราได้เร่งทยอยทำการต่อเชื่อมสายไฟฟ้า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชนได้ในหลายจุดแล้ว จึงทำให้สถานการณ์ภายในเขตพื้นที่ตัวเมืองฉะเชิงเทราเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ภายใน รพ.พุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) นั้น ยังได้เกิดเหตุต้นไม้ล้มทับเครื่องบรรจุถังก๊าซออกซิเจนจนทำให้เกิดการรั่วไหล และยังคงอยู่ระหว่างการรอให้ทางบริษัทเอกชนผู้รับผิดชอบเดินทางเข้ามาทำการแก้ไขในจุดเกิดเหตุดังกล่าวในขณะนี้
