SGP เปิดกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 58 มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่ง และสต๊อกสินค้าสำหรับธุรกิจในต่างประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการหาโอกาสในการจำหน่ายก๊าซ LPG ทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง “จินตณา” เผยธุรกิจครึ่งปีหลังมีทิศทางดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวส่งผลให้ยอดขายก๊าซเพิ่ม นอกจากนี้ มีแผนลงทุนครอบคลุมพื้นที่ AEC
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ระบุว่า โดยภาพรวมมองว่ายอดขายจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ (LPG) เพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของก๊าซหุงต้มที่ใช้ในโรงแรม ร้านอาหาร และก๊าซรถยนต์ที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายก๊าซ LPG
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่ง และสต๊อกสินค้าสำหรับธุรกิจในต่างประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการหาโอกาสในการจำหน่ายก๊าซ LPG ให้แก่ลูกค้าปลีก และลูกค้าส่งรายใหม่ในต่างประเทศ เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตขึ้นในอนาคต และในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายภายในประเทศ โดยการสร้างสถานีบริการก๊าซ LPG แห่งใหม่ จำนวน 5 แห่ง และผลิตถังก๊าซ LPG ขนาดสำหรับใช้ในครัวเรือนเพื่อให้มีถังก๊าซหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น
โดยการลงทุนขยายปั๊มก๊าซ LPG ของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มจำนวนอีก 4-5 แห่ง เป็น 45 แห่ง ภายในสิ้นปี 58 โดยตั้งแต่ต้นปีเปิดแล้ว 3 แห่ง เป็น 43 แห่ง ทั้งนี้ ใช้งบลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท หรือลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 10-15 ล้านบาทต่อสาขา ไม่รวมที่ดิน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเซ็นสัญญาขายก๊าซ LPG ให้แก่พันธมิตรในพม่า โดยตั้งเป้ายอดขาย 3-4 พันตัน/เดือน เพื่อทดลองตลาด เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสที่ประชาชนในพม่ามีความต้องการใช้ก๊าซสูง ซึ่งหากการทำตลาดในพม่าประสบความสำเร็จบริษัทก็จะเข้าไปลงทุนก่อสร้างคลังก๊าซ LPG ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อสร้างคลังก๊าซ LPG ขนาด 1,000-2,000 ตัน วงเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท
“ส่วนใน AEC เรามีแผนเข้าไปให้ครอบคลุมทั้งหมด คลังก๊าซในพม่าเราขอทดลองตลาดไปก่อน ถ้าจะมีความชัดเจนจริงๆ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ ส่วนในกัมพูชา ขอศึกษาก่อนเพราะมีความเสี่ยงเรื่องการเมืองที่ไม่แน่นอน แต่หากเราจะเข้าไปลงทุนจริงๆ ไม่ว่าจะกัมพูชา หรือประเทศอื่นๆ เราก็อยากเข้าไปลงทุนซื้อในโครงการที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทได้เลย”
ทั้งนี้ ผลประกอบการโดยรวมในปีนี้บริษัทยังคงมองการเติบโตสำหรับปี 2558 ไว้อยู่ที่ 2.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 6 โดยแบ่งเป็นสัดส่วนการขายในประเทศร้อยละ 48 และขายต่างประเทศร้อยละ 52 สำหรับเป้าหมายรายได้รวมคาดว่าจะอยู่ราว 5.5-6.0 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ราคาก๊าซ LPG เฉลี่ย 6 เดือน อยู่ในระดับ 460 เหรียญสหรัฐเท่านั้น เทียบกับปี 2557 ที่เฉลี่ย 6 เดือน อยู่ที่ระดับ 885 เหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าในปีนี้ผลประกอบการจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร ซึ่งผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถพลิกกลับมามีกำไร 403 ล้านบาทได้ เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 96 ล้านบาท
