สสว.ติวเข้มยกระดับเครือข่ายผลิตภัณฑ์ไหมขอนแก่น ให้เติบโตยั่งยืน

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สสว.จัดสัมมนา “ด้วยเครือข่าย...SMEs เติบโตได้อย่างยั่งยืน” เผยสนับสนุนเครือข่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมครบวงจร มุ่งยกระดับความสามารถทั้งการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยงและพัฒนา รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง

วันนี้ (28 ต.ค.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดสัมมนาผู้ประกอบการ SMEs หัวข้อ “ด้วยเครือข่าย...SMEs เติบโตได้อย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ใน 18 กลุ่มจังหวัด มุ่งส่งเสริมความรู้เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ โดยมี นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานสัมมนา พร้อมด้วยผู้ประกอบการเครือข่ายวิสาหกิจผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยครบวงจร กลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุโข อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ตลอดจนผู้ประกอบการผ้าไหมที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมจำนวนมาก ณ ห้องศรีจันทร์ 1 โรงแรมเจริญธานี อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายปกิติศักดิ์ ลิมปิฐาภรณ์ รองผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า สสว.จัดงานสัมมนา “ด้วยเครือข่าย...SMEs เติบโตได้อย่างยั่งยืน” เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ และความสำคัญแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในรูปแบบการสร้างเครือข่าย เพื่อต้องการยกระดับความสามารถด้านการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยงและพัฒนา รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง แลกเปลี่ยนมุมมองความคิด และแนวทางต่อยอดธุรกิจร่วมกันของผู้ประกอบการ และเครือข่ายให้เติบโตอย่างยั่งยืน

การสัมมนาครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ใน 18 กลุ่มจังหวัด เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ในลักษณะเครือข่าย เพื่อสร้างโอกาสทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนากิจกรรมระหว่าง SMEs ในอุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้องทั้งใน และนอกพื้นที่ สามารถต่อยอดเป็นสังคม หรือเครือข่ายที่มีพลังอำนาจต่อรอง และผลักดันให้ภาคธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่

โดยคัดเลือกกลุ่มอุตสาหกรรม SMEs ทั่วประเทศรวม 54 เครือข่าย ทั้งภาคเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรม การค้า และบริการ เข้าสู่กระบวนการพัฒนา โดยมีหน่วยงานร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 18 เครือข่าย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 17 เครือข่าย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 7 เครือข่าย กรมส่งเสริมการเกษตร 6 เครือข่าย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย 2 เครือข่าย

กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมหม่อนไหม หน่วยงานละ 1 เครือข่าย ทำหน้าที่เสมือนพี่เลี้ยงสนับสนุนเครือข่ายสู่การพัฒนาให้บรรลุเป้าหมาย คือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไม่น้อยกว่า 10,000 ราย สร้างโอกาสทางการตลาดรวมถึงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,000 ราย และสามารถลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท

ด้าน นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ประกอบการ SMEs มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ดำเนินการผลิตกว่า 95% เป็นผู้ประกอบการ SMEs โดยกลุ่มคลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่น มีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผ้าไหมอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ที่ผ่านมาจังหวัดขอนแก่นได้จัดงานไหมเป็นงานประเพณีประจำปีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการผ้าไหม

และยกระดับการจัดงานไหมเป็นระดับนานาชาติ สร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิต เพิ่มช่องทางจัดหาวัตถุดิบ และเพิ่มช่องทางการตลาด รวมถึงการจัดงานไหมอาเซียนให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผ้าไหมในกลุ่มอาเซียน ได้สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ด้านการออกแบบ การผลิต และช่องทางการตลาด

ทั้งนี้ ตามโครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ในภาคอีสาน มีเครือข่ายกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุโข อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ได้รับการสนับสนุนจาก สสว.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำ คือ จัดหาพื้นที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เทคนิคการสาวไหม พันธุ์ไหม ตลอดจนสนับสนุนกลางน้ำ ด้านการออกแบบ การย้อมสีธรรมชาติ และปลายน้ำ คือ ศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ เช่น การจัดแสดงสินค้า ซึ่งสามารถนำข้อมูลกลับมาพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมต่อลูกค้าแต่ละประเทศได้