นครปฐม - มนุษย์สลิงกว่า 10 ชีวิต เริ่มปีนป่ายองค์พระปฐมเจดีย์ที่มีความสูงกว่า 120 เมตร เพื่อนำดวงไฟกว่า 3,000 ดวง และไฟกะพริบอีกกว่า 600 ดวง ขึ้นไปติดประดับให้เกิดความสวยงามรับเทศกาลเฉลิมฉลองนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์ ที่จะมีขึ้นในช่วง 22-30 พ.ย.นี้ ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวที่ลุ้นระทึกด้วยความหวาดเสียว และตื่นเต้น
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบไหว้บูชาขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ และพระประธานทางต่างๆ ที่อยู่โดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ต่างตื่นตา และตื่นเต้นต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปีนองค์ปฐมเจดีย์ที่มีความสูงกว่า 120 เมตร จากฐานเพื่อนำดวงไฟกว่า 3,000 ดวง และไฟกะพริบอีกกว่า 600 ดวง ขึ้นไปติดประดับให้เกิดความสวยงามเพื่อรอรับเทศกาลเฉลิมฉลองนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา การนำดวงไฟมาติดที่องค์พระปฐมเจดีย์เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จะมีภาพของมนุษย์ 10 กว่าคนจะปีนป่ายตั้งแต่ฐานองค์พระปฐมเจดีย์ ไปจนถึงบนยอดนพศูร จุดสูงสุดของเจดีย์ เป็นภาพที่สร้างความตื่นเต้น หวาดเสียว และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนที่พบเห็น และเป็นสัญญาณบอกว่า เทศกาลประจำปีในการนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
โดยทุกครั้งก่อนที่ทีมงานติดตั้งดวงไฟนับสิบชีวิตจะขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเอง พระพรหมเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ จะนำกล่าวบูชาขอขมา และขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ และเหล่าช่างจะร่วมกันกล่าวขอขมาพระร่วงฯ จากนั้นพระพรหมเวที จะมอบเหรียญพระร่วงคล้องคอให้ช่างทุกคนก่อนจะพรมน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมงคล
การปฏิบัติเช่นนี้มีมาตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ที่ทีมงานชุดนี้ได้ทำงานมาไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น และทุกคนเชื่อว่านี่คือพร และบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่ดลบันดาลให้ความปลอดภัยแก่พวกเขาให้ทำภารกิจด้วยความลุล่วงตลอดเวลา 20 กว่าปี
นายพรเทพ ฐิติเบญจพล หัวหน้างานไฟฟ้าองค์พระปฐมเจดีย์ บอกว่า การทำงานติดตั้งดวงไฟ ตนได้รับมอบหมายมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งจะต้องใช้หลอดไฟแบบ 25 แรงเทียน จำนวน 3 พันกว่าดวง และหลอดไฟแบบกะพริบอีก 600 กว่าดวง การติดตั้งใช้เวลา 8-10 วันจึงจะเสร็จสิ้น
ส่วนองค์เจดีย์จะใช้ส่วนที่คนปีนขึ้นได้เท่านั้น 16 คน ซึ่งก่อนหน้านั้น การติดดวงไฟจะทำเป็นเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แต่ต่อมา พระพรหมเวที ได้ดำรัสว่า ในช่วงหลังน่าจะเป็นการประดับไฟเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะวัดพระปฐมเจดีย์ก่อกำเนิดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงริเริ่มให้มีการบูรณะ และปฏิสังขรณ์ให้องค์พระปฐมเจดีย์มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดังเช่นทุกวันนี้
สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทยอยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า
องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็นประจำทุกปี โดยมีความสูงประมาณ 120 เมตร
สำหรับการจัดงานเฉลิมฉลองในปีนี้ ได้กำหนดให้เริ่มในวันขึ้น 12 ค่ำถึงแรม 5 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.ถึง 30 พ.ย. 58 เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน และในปีนี้ยังได้มีการจัดงานพิธีครบ 100 ปี พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร โดยกำหนดให้มีพิธีการในวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งจะมีการบวงสรวงเครื่องสักการบูชาแด่องค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ ณ หน้าวิหารหลวงพ่อพระร่วงฯ การเททองหล่อพระร่วงฯ จำลองสูง 2.45 เมตร จำนวน 2 องค์ อัญเชิญพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์จำลอง และพระบรมฉายาลักษณ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ผ้าไตรพระราชทาน จากสถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม สู่องค์พระปฐมเจดีย์ และพิธีทางศาสนาที่สำคัญอีกหลายกิจกรรม