ASTV ผู้จัดการ - เลื่อนฟังฎีกาคดีฉ้อโกงประชาชนจัดสร้างสมเด็จเหนือหัว ปี 50 เหตุ “เสี่ยอู๊ด” จำเลยที่ 1 เสียชีวิต นัดไต่สวนการตาย 14 ธ.ค.
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 804 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฉ้อโกงประชาชน หมายเลขดำ อ.2358/ 51 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด อายุ 44 ปี นักสร้างพระชื่อดังชาว อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และบริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด โดยมีนายสิทธิกรเป็นกรรมการผู้จัดการ ร่วมกัน เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า และโดยใช้ข้อความที่ใช้หรืออ้างอิงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์โดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม, ร่วมกันใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเลียนเครื่องหมายราชการให้ปรากฏที่วัตถุหรือสินค้าใดๆ
โจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2550 จำเลยทั้งสองร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยโฆษณาเผยแพร่ว่า จัดสร้างพระเครื่องชื่อว่า “พระสมเด็จเหนือหัว” จากมวลสารดอกไม้พระราชทาน และผ้าไตรพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อจัดสร้างพระรุ่นนี้เป็นกรณีเฉพาะ และยังนำตราเครื่องหมายพระมหามงกุฎ เครื่องหมายราชการของสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง และเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าแผ่นดินมาพิมพ์ประทับไว้ที่ด้านหลังพระสมเด็จเหนือหัว ซึ่งล้วนเป็นเท็จ จนมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อเช่าซื้อ จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2553 โดยพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47, 48 และ 59 และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2484 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 และ 83 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้เรียงลงกระทงลงโทษ ฐานฉ้อโกงประชาชนอันเป็นบทหนักสุด ให้จำคุกนายสิทธิกร จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี ส่วนบริษัทฯ จำเลยที่ 2 ปรับ 10,000 บาท และฐานใช้และเลียนแบบเครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุกนายสิทธิกรจำเลยที่ 1 อีก 1 ปี และปรับบริษัทฯ จำเลยที่ 2 อีก 2,000 บาท รวมจำคุกนายสิทธิกรจำเลยที่ 1 รวม 5 ปี ปรับบริษัทฯ จำเลยที่ 2 รวม 12,000 บาท โดยให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหายทั้ง 921 คนที่เช่าพระสมเด็จเหนือหัว แต่ไม่ให้เกิน 4,055,916 บาท จำเลยอุทธรณ์ขอให้พักการลงโทษและลงโทษสถานเบา ต่อมาวันที่ 15 มี.ค. 2556 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น อัยการโจทก์ยื่นฎีกาให้ลงโทษสถานหนัก
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทนายความจำเลยทั้งสองเดินทางมาศาล และแถลงต่อศาลว่านายสิทธิกร จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจเพียงผู้เดียวของบริษัท ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2558 พร้อมแสดงใบมรณบัตรแนบท้ายคำร้องให้ศาลพิจารณา ส่วนนิติกรผู้รับมอบอำนาจจากอัยการโจทก์แถลงว่าจะนำข้อเท็จจริงดังกล่าวไปแจ้งแก่อัยการโจทก์เพื่อทราบและมาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่ทนายจำเลยแถลงมามีเหตุผลสมควรประกอบกับอัยการโจทก์ยังไม่สามารถแถลงข้อเท็จจริงในวันนี้ได้จึงอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนการตายของจำเลยที่ 1 เป็นวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ผู้นี้เป็นนักสร้างพระมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่ว โดยเฉพาะวงการบันเทิงเสี่ยอู๊ดมีข่าวพัวพันกับนักแสดงหนุ่มหลายคน แต่เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาได้ก่อเหตุฆ่าตัวตายโดยเปิดห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ จ.พิษณุโลก แล้วกินยานอนหลับจำนวน 10 แผง พร้อมกับเขียนจดหมายลาตายใจความตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจที่เคยบริจาคเงินเพื่อการกุศลนับพันล้านบาท แต่เมื่อชีวิตถึงคราวตกต่ำกลับไม่มีใครเหลียวแลเห็นความสำคัญ จึงได้ฆ่าตัวตายดังกล่าว